Detail

ทริปนี้เป็นการชักชวนของพี่เอกราชประธานเวบชมไทยที่คอยหาทริปดีๆ มาให้สัมผัส

การเดินทางที่ได้ครบทุกรสชาติ
การเดินทางไปลำปางที่สุดแสนจะทรมาร
วิถีชีวิตชาวบ้านยามเช้า
วัดโบราณที่สวยงามที่ได้อิทธิพลของวัฒนธรรมพม่า
ประวัติศาสตร์ของรถไฟไทย
และอื่นๆอีกมากมาย

Comment : 51

ไหนอะหน้า 2 รอชมอยู่นะคะ
อิอิ
รูปสวย บวกกับการบรรยาย อย่างเห็นภาพ
เหมือนกลับไปอีกครั้งเลย

Comment : 52

และแล้วเราก็มาถึงสถานีรถไฟขุนตาล
สถานที่ที่เรานัดพบกับหน้าป๊อบ

Comment : 53

เมื่อเติมพลังมื้อเที่ยงกันเสร็จ
ภาระกิจเดินป่าดอยขุนตาลกำลังจะเริ่มขึ้น
สำหรับหลายๆคน จุดเริ่มต้นอยู่ตรงนี้
แต่ ทีมเรา ขึ้นรถน้าป๊อบไปซึ่งรถระยะ ได้ถึง 2 กิโลเมตรกว่าๆเลย

Comment : 54

ตัดภาพมา ย. 4 เลยซึ่งเป็นที่พักของเรา
ระหว่างทางที่เดิน เน้น เดินชม ใช้สมองจำอย่างเดียวเลยไม่มีรูป

เป็นเทือกเขากั้นเขตแดนระหว่างจังหวัดลำพูนที่อำเภอแม่ทาและจังหวัดลำปางที่อำเภอห้างฉัตรประกาศเป็นอุทยา
นแห่งชาติเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2518 มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 159,556 ไร่
มีอุโมงค์รถไฟยาวที่สุดในประเทศไทย เป็นระยะทาง 1,352 เมตร รถไฟใช้เวลาวิ่งผ่านประมาณ 5 นาที
อุทยานแห่งนี้อยู่กึ่งกลางเส้นทางคมนาคมทางรถไฟ ระหว่างลำปาง-ลำพูน ดอยขุนตาลประกอบด้วย
ป่าไม้หลายลักษณะ เช่น ป่าดงดิบ ป่าสน เป็นต้น มี 4 ยอดเขา จากเชิงดอยถึงยอดสูงสุดประมาณ 7 กม.
การเดินทางขึ้นไปบนดอยขุนตาล ไปได้ 2 ทางคือ ทางรถไฟ ลงที่สถานีขุนตาลแล้วเดินเท้าไปที่ทำการ อีกประมาณ
900 เมตร เป็นทางที่สะดวกที่สุด หรืออีกเส้นทางหนึ่งคือทางรถยนต์โดยเลี้ยวขวาตรง หลักกม.ที่ 47
(เส้นทางสายลำปาง-ลำพูน) เข้าไปตามทางอีก 18 กม. ซึ่งสภาพถนนไม่ดีนัก
บางช่วงก็ชันมากจึงควรใช้รถสภาพดี

Comment : 55

ย 1 ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการวนอุทยานฯ ราว 1,100 เมตร เมื่อเดินทางขึ้นไปถึง ย. 1
จะพบพลับพลาที่รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จมาประทับ 1 หลัง และที่พักของการรถไฟฯ 3 หลัง ติดต่อจองที่พักได้ที่
การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 225-6964

ย 2 ตั้งอยู่ห่างจาก ย. 1 ไปราว 800 เมตร เมื่อไปถึงจะเห็นสวนลิ้นจี่และต้นไม้เมืองหนาว เช่น ลูกแพร์
ลูกพลับและทุ่งสน แต่สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็คือ บ้านพักของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช
แต่ไม่เปิดรับรองแก่นักท่องเที่ยวทั่วไป บริเวณ ย. 2 จะมีที่ทำการของอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล
และมีเรือนพักรับรอง 6 หลัง ผู้สนใจติดต่อจองบ้านพักได้ที่ โทร. 579-0529 และ 579-4842

ย 3 อยู่ถัดจาก ย. 2 ขึ้นไปประมาณ 3,600 เมตร เป็นที่ตั้งของบ้านพักมิชชั่นนารี ลักษณะที่พักเป็น
บ้านไม้หลังใหญ่ จำนวน 8 หลัง พร้อมด้วยอุปกรณ์ทำครัว เนื่องจากไม่มีร้านอาหารบริการ ต้องนำอาหาร
ขึ้นไปเอง ติดต่อจองบ้านพักได้ที่ คณะกรรมการขุนตาล วิทยาลัยภาคพายัพ ตู้ ปณ. 161 เชียงใหม่ 50000 โทร.
(053) 241255 (053) 241255

ย 4 อยู่ถัดจาก ย. 3 ขึ้นไปอีกราว 1,500 เมตร เป็นยอดสูงที่สุดของดอยแห่งนี้
แม้ระยะจะไม่ไกลกันนักแต่เป็นช่วงที่ชันมาก เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางถึงบนยอด ย. 4 แล้ว
สามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างได้เป็นมุมกว้าง ส่วนมากมักนิยมไปเฝ้าชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า
ซึ่งมีความสวยงามน่าประทับใจ

Comment : 56

บรรยากาศรอบ
ที่ชอบเป็นพิเศษกับสนภูเขา

Comment : 57

อีกสักรูป

Comment : 58

หลังจากเตรียมที่พักเสร็จ
บางส่วนก็นั่งคุย
บางส่วนกะหุงหาอาหาร
รอเวลาไปชมพระอาทิตย์ตกกันบนจุดที่อยู่สูงสุดของดอยขุนตาล

Comment : 59

เมื่อถึงเวลาประธานเอกราช
ก็นำเราขึ้นไปยังจุดชมวิว

Comment : 60

มาถึงแล้วจุดชมวิว
ซึ่งเป็นสันผีปันน้ำ หรือ เขาแบ่งเขตจังหวัดลำพูนและลำปาง

Comment : 61

น้องเกต
ขอถ่ายเป็นที่ระลึก

Comment : 62

พี่ปุ๊ยเวสป้าบ้าง

Comment : 63

พระอาทิตย์กำลังหมดกำลัง

Comment : 64

พี่จิ๋วเหมือนจะรอใครสักคน...ที่จะเดินเข้ามา

Comment : 65

อาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า

Comment : 66

แต่ในใจผู้ชายคนนี้ยังคงเฝ้าคิดถึงใคร

Comment : 67

พี่จิ๋วขอเป็นที่ระลึกก่อนจากลาพระอาทิตย์ประจำวันนี้

Comment : 68

ส่งท้ายคืนนี้ที่จุดชมวิวดอยขุนตาลในการชมพระอาทิตย์ตกที่แสนโรแมนติกไว้ ณ ตรงนี้
คืนนี้เรายังมีกิจกรรมต่างๆที่รอเรา
อาหารเย็นที่น้าป๊อบทำรอ
ที่นอนอุ่นๆกันหนาว
บัสที่ทำให้ใครหลายๆคนเสียเส้นบ้าง ตะคริวกินบ้าง
หนสุดท้าย จะถึง 50 อยู่แล้ว ดันมาล่มที่ 49

Comment : 69

ตัดมาตอนเช้า
เราก็กลับขึ้นไปยังจุดชมวิวอีกครั้ง
เพราะอะไร



วิวสวย


พระอาทิตย์ขึ้น


ทะเลหมอก


หรืออะไร ????????????

Comment : 70

ว่าแล้วก็จัดไปให้พี่จิ๋ว

Comment : 71

ประธาน กับ เจ้นุ้ย รอบนี้เป็นซะทุกอย่าง เดินเก่งมากมายพี่

Comment : 72

Comment : 73

สาเหตุที่ทำให้ดอยขุนตาลสดใส

ความหนาวจากอากาศลดลง

ความร้อนในใจหลายๆคนเริ่มแผดเผา

Comment : 74

Comment : 75

Comment : 76

Comment : 77

Comment : 78

Comment : 79

Comment : 80

ไหนๆก็ไหนๆ เราก็จัดการแนะนำเวบไซค์ชมไทยของเรา
โดยการถ่ายรูปน้องๆ ไปล่อเข้ามา

ขอบคุณน้องๆ ม.6/1 โรงเรียนแม่สันพิทยาคม
อำเภอห้างฉัตร ลำปาง ด้วยนะครับ
ยินดีต้อนรับ

Comment : 81

เข้าชมไทยทั้งที่
เราต้อง



!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! โดด !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

Comment : 82

ระหว่างขาลงเราได้เดินเข้าไปแวะบานพัก มรว.คึกฤทธิ ปราโมท

Comment : 83

Comment : 84

ก่อนจากขุนตาลเพื่อกลับไปเที่ยวนครลำปางต่อ
ทีระลึก

Comment : 85

โดดส่งท้ายขุนตาล ไว้ด้วยภาพนี้ครับ

แล้วเราจะไปต่อ ณ วัดพระธาตุลำปางหลวง

Comment : 86

น้าป๊อบใจดี พาเรามาไหว้สักการะพระธาตุลำปางหลวงต่อ
ซึ่งเป็นวัดที่เคยประดิษฐานพระแก้วมรกต พระคู่บ้านคู่เมืองของไทย

Comment : 87

ตอนที่ไปกำลังบูรณะ

Comment : 88

วัดพระธาตุลําปางหลวง เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม และมีความสําคัญทางด้านประวัติศาสตร์
วัดพระธาตุลําปางหลวงเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองลําปาง ตามตํานานกล่าวว่า
มีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ราวพุทธศตวรรษที่ 13 ตัววัดตั้งอยู่บนเนิน มีบันไดนาคทอดขึ้นสู่ตัววัด
วัดพระธาตุลําปางหลวง ตั้งอยู่ที่ ต.ลําปางหลวง ห่างจากตัวเมืองลําปาง ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร
ตามทางหลวงสายลําปาง-เถิน ถึงหลักกิโลเมตรที่ 586 เลี้ยวเข้าไปจนถึงที่ว่าการอําเภอเกาะคา
จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร
วัดพระธาตุลําปางหลวง มีพุทธสถานที่น่าสนใจได้แก่ วิหารหลวง ซึ่งเป็นวิหารขนาดใหญ่ เปิดโล่ง
มีกู่บรรจุพระเจ้าล้านทอง เป็นประธานของพระวิหาร หลังพระวิหารมีเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ที่รั้วทองเหลือง
รอบองค์พระเจดีย์มีรูกระสุนปืนที่หนานทิพย์ช้างยิงท้าวมหายศปรากฎอยู่ ด้านขวาองค์เจดีย์เป็นวิหารน้ำแต้ม
(แต้ม แปลว่าภาพเขียน) เป็นวิหารเปิดโล่ง ปัจจุบันภาพเขียนลบเลือนไปมาก
ด้านซ้ายของพระเจดีย์เป็นวิหารพระพุทธ เป็นอาคารปิดทึบ มีพระประธานแบบเชียงแสนองค์ใหญ่อยู่เต็มอาคาร
หน้าบันของวิหารพระพุทธเป็นลายดอกไม้ติดกระจกสี และพิพิธภัณฑ์ของวัด ซึ่งรวบรวมศิลปวัตถุจากที่ต่างๆ
ที่หาชมได้ยาก เช่น สังเค็ดธรรมาสนเทศน์ คานหาบ ตู้พระไตรปิฎก เป็นต้น
นอกจากนี้ วัดพระธาตุลําปางหลวง ยังเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วดอนเต่า
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลําปาง ทุกปีจะมีงานประจําปีในวันเพ็ญเดือน 12

Comment : 89

Comment : 90

Comment : 91

ฝีมือน้องเค้า อธิฐานแล้วตั้งเหรียญ

Comment : 92

การเสี่ยงทายมีให่เห็นทั่วๆไป

Comment : 93

บ้างๆๆๆๆ

Comment : 94

ไปดูไฮไลต์ของที่นี้ เจดีย์กลับหัว

Comment : 95

กลัวไม่เชื่อ

Comment : 96

ภายนอก

Comment : 97

Comment : 98

แล้วก็ถึงเวลาวัดปิดเวลา 17 นาฬิกา กะเลยต้องไปยังเป้าหมายสุดท้ายของทริปนี้

ชมต่อ

Comment : 99

เป้าหมายสุดท้ายของทริปนี้อยู่ที่ กาดกองต้า เพื่อไปเยี่ยมชมร้านทักทายไอดิน

ก่อนเข้าไปเราแวะที่สะพานรัษฏาภิเศก

สะพานรัษฎาภิเศก หรือ สะพานขาว ตั้งอยู่ที่ถนนรัษฎา เป็นสะพานข้ามแม่น้ำวัง ตั้งอยู่ใน ต.หัวเวียง
อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง เดิมเป็นสะพานโครงสร้างไม้ ที่ทางเจ้าผู้ครองนครลำปาง
และชาวจังหวัดลำปางได้จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในวาระที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ
รัชกาลที่ 5 ในโอกาสที่พระองค์ครองราชย์ครบ 25 ปี ในปี พ.ศ. 2437[1]

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2
ได้ทาสีพรางตาและด้วยการอ้างว่าสะพานแห่งนี้ไม่มีประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ จึงรอดจากโจมตีทิ้งระเบิดมาได้
หลังจากนั้นได้มีการก่อสร้างใหม่เมื่อเดือนมีนาคม 2460 เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก
บริเวณสะพานมีเครื่องหมายไก่ขาว และครุฑหลวงประดับไว้ตรงหัวสะพาน[2]

สะพานรัษฎาภิเศกภิเษกยังทำหน้าที่สัญลักษณ์ของเมืองลำปาง ในฐานะของ “ขัวสี่โก๊ง(สะพานสี่โค้ง)” “ขัวหลวง
(สะพานใหญ่)” “ขัวขาว (สะพานขาว)” [1]

Comment : 100