ทริปชิวๆ กับกาญจนบุรี..... Post by : moonoi : 2008-08-28 00:19:52

ทริปชิวๆ กับกาญจนบุรี.....

Detail

การเดินทางของพวกเราเริ่มต้นนั่งรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ค่าโดยสารคนละ 130 บ.
มุ่งสู่จุดหมายสถานีรถไฟกาญจนบุรี

moonoi [2008-08-28 00:19:52] mail not show

1 [ 2 ]

Comment : 1

อัตราค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ไปสถานีวังโพ
(แต่เนื่องจากช่วงนี้ภาครัฐได้จัดโครงการช่วยเหลือประชาชนให้ขึ้นรถไฟฟรีขึ้น พวกเราจึงไม่เสียเงิน)

ปล. ยกเว้นต่างชาติจะเสียค่าโดยสารอัตรา 100 บาท

moonoi [2008-08-28 00:25:18] mail not show

Comment : 2

ระหว่างรอรถไฟ ก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ

moonoi [2008-08-28 00:27:46] mail not show

Comment : 3

moonoi [2008-08-28 00:28:54] mail not show

Comment : 4

ดูไฮโซมั่กๆ

moonoi [2008-08-28 00:34:17] mail not show

Comment : 5

รถไฟสุดหรูขบวนนี้วิ่งไปถึงสิงคโปร์ โดยใช้เวลา 3 วัน 2 คืนเชียวนะคะ ใครสนใจลองใช้บริการดูได้น๊า

moonoi [2008-08-28 00:36:59] mail not show

Comment : 6

ภายในตู้โดยสาร...

moonoi [2008-08-28 00:41:11] mail not show

Comment : 7

ฟ้าแจ่มมั่กมาก ชอบๆ

moonoi [2008-08-28 00:43:02] mail not show

Comment : 8

ผู้คนที่เฝ้ารอรถไฟอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยข้างชานชลา

moonoi [2008-08-28 00:45:21] mail not show

Comment : 9

นั่นๆ รถไฟมาแย้ววววววววว

moonoi [2008-08-28 00:47:24] mail not show

Comment : 10

รถไฟขบวนที่พวกเราขึ้น

moonoi [2008-08-28 00:50:03] mail not show

Comment : 11

วิว 2 ข้างทาง

moonoi [2008-08-28 00:51:52] mail not show

Comment : 12

ร้านอาหารบนแพ บรรยากาศชิวๆ ...

moonoi [2008-08-28 00:55:33] mail not show

Comment : 13

เคี้ยวตุ้ยๆ เลยนะหนูน้อย (ถ่ายยากมากๆ กว่าจะหลอกล่อได้ เล่นเอาเหนื่อยเชียว)

moonoi [2008-08-28 00:57:46] mail not show

Comment : 14

รีสอร์ท - แพริมน้ำตามรายทาง

moonoi [2008-08-28 01:00:43] mail not show

Comment : 15

"บ้านริมแคว แพริมน้ำ" เห็นออกบูทงานททท. บ่อยๆ สักวันจะหาโอกาสไปพักนะ

moonoi [2008-08-28 01:03:34] mail not show

Comment : 16

moonoi [2008-08-28 01:06:41] mail not show

Comment : 17

หมอนรอง กับ รางรถไฟ...

moonoi [2008-08-28 01:10:27] mail not show

Comment : 18

สถานีวังโพ จุดหมายของพวกเรา... หลังจากใช้เวลา 20 นาที (ตามคำบอกเล่าของสมาชิกร่วมทางท่านหนึ่ง หุหุ)
แต่ทำไมมันนานประหนึ่ง 2 ชม. หว่า

moonoi [2008-08-28 01:15:15] mail not show

Comment : 19

สุดไกลตา...

moonoi [2008-08-28 01:17:48] mail not show

Comment : 20

แว๊นๆๆๆๆๆๆ.....อิอิ..ไม่หลับไม่นอนเรอะ...
ปี๊นๆ...(เปิดไฟเลี้ยวปาดซ้าาาา)

chaochao [2008-08-28 01:36:05]

Comment : 21

คห. 12 น้ำใสจังเลยครับ... น่าโดดเล่นมาก

Khondee [2008-08-28 08:59:07]

Comment : 22

สวยจ้าสวย ยังสวยได้อีก

TonKlongwan [2008-08-28 09:04:23] mail not show

Comment : 23

ยังโพสไม่จบใช่ป่าว

ake no.1 [2008-08-28 10:18:40]

Comment : 24

มาสานต่อให้จบ...เลย

PEACH [2008-08-28 13:50:36] mail not show

Comment : 25

โพสต่อเลยดีกว่า ^ - ^
"อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์"
เมืองสิงห์และประสาทเมืองสิงห์ ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลสิงห์ อ.ไทรโยค จ. กาญจนบุรี มีเนื้อที่ 641 ไร่
หรือประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร แวดล้อมด้วยภูเขาเป็นแนวยาวอยู่โดยรอบ มีลำน้ำแควน้อยไหลผ่านทางด้านทิศใต้
ลักษณะของเมืองสิงห์มีผังเมืองเกือบเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีกำแพงเมืองก่อด้วยศิลาแลงโดยรอบทั้ง 4
ด้าน ที่กลางเมืองมีโบราณสถานทรงปราสาท สร้างขึ้นตามแบบแผนของอารยธรรมกัมพูชาโบราณ
นอกจากนี้ยังพบโบราณวัตถุจำพวกประติมากรรมต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับพุทธศาสนาฝ่ายมหายานเป็นจำนวนมาก
จากการศึกษารูปแบบทางศิลปกรรมสามารถกำหนดอายุได้ว่า ปราสาทหลังนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
แห่งอาณาจักรกัมพูชาโบราณ
ผู้มีอำนาจอยู่ในเขตภาคตะวันออกและภาคกลางของประเทศไทยในครึ่งแรกของพุทธศตวรรษที่ 18
เมืองสิงห์ได้หมดความสำคัญและถูกทิ้งให้กลายเป็นเมืองร้างไปภายหลังจากการล่มสลายของอาณาจักรกัมพูชาอันยิ
่งใหญ่ในราวต้นพุทธศตวรรษที่ 19
กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเมืองสิงห์และปราสาทเมืองสิงห์เป็นโบราณสถานสำหรับชาติ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม
พุทธศักราช 2478
จากนั้นก็ได้ดำเนินการขุดแต่งและบูรณะเสริมความมั่นคงตลอดจนปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ร่มรื่นสวยงาม
สมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เมื่อวันที่ 3 เมษายน พุทธศักราช
2530 นับเป็นอุทยานประวัติศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย