เอาละ เอาละ ลุงเดีย ลุงเอก และ ลุงๆๆๆๆ ทั้งหลาย ไม่ต้องเถียงกัน ประเดี๋ยวหลานจะเล่าอะไรสั้นๆให้ฟัง
ในฐานะที่เป็นคนกลาง เสื้อขาว และเดินเข้าวัดนั้น ออกวัดนี้ ในอยุธยาตั้งแต่วัยเยาว์
ตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่า ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310 โดยพระเจ้ามังระ
พระราชวังและวัดวาอารามเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากจะเสียหายจากสงครามแล้ว
ชาวกรุงศรีบางกลุ่มที่เห็นแกตัวเริ่มขุดหาสมบัติ นำไปขายทำให้ที่พังอยู่แล้วพังยิ่งขึ้น
ช่วงนั้นบ้านเมืองโกลาหล โจร,ขโมยชุกชุม ทำให้คนอยุธยาแท้ๆ ต้องซัดเซไปอยู่ที่อื่น
จนมาในสมัยของรัชกาลที่ 5 หลังจากที่ได้มีราชฑูตจากเยอรมัน คยุคโยฮันที่ 15 มาที่ประเทศไทย ร.5 ได้ให้
พระโอรส(ชื่ออะไรจำไม่ได้ ลืมอะ) เป็นมัคคุเทศก์พาไปนั่งช้างเยี่ยมชมอยุธยา
เนื่องจากดยุคโยฮันมีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์
จากนั้นทำให้ท่านทราบถึงความเสียหายอย่างมากและไม่อาจจะปล่อยทิ้งร้างอย่างเดิมได้ต่อไป
จึงได้มีรับสั่งให้บูรณะ ซ่อมแซมกรุงศรีอยุธยาเป็นการใหญ่
แต่ท่านก็เน้นรับสั่งให้คงสภาพเหมือนของเดิมให้มากที่สุด เพื่อให้ชนรุ่นหลัง
ลูกหลานของท่านนึกภาพเหตุการณ์ในสมัยนั้นได้บ้าง โดยการนี้ทางประเทศพม่าได้ให้เงินจำนวน 50,000 บาท
มาช่วยสร้างเพื่อผูกสัมพันธไมตรีกับไทย
ลองคิดดูนะ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ร้อยกว่าปีจนถึงปัจจุบันต้องบูรณะ ซ่อมแซมกันอยู่ตลอดเวลา
ทุกครั้งที่มีฝนตก นำท่วม แดดออก ทุกอย่างทำลายสิ่งปลูกสร้างเดิมทั้งสิ้น นั่นหมายถึงว่า เนื้อแท้ๆของ
สิ่งก่อสร้างทุกชิ้นซ่อนอยู่ภายใต้อิฐ หิน ดิน ทราย ที่ใช้ในการซ่อมแซม 417 ปี ที่อยุธยาเป็นราชธานี
มีการลื้อและสร้าง ถูกเผาทิ้งและสร้างใหม่มากี่ครั้ง และต้องซ่อมมากี่ครั้ง
ไม่เชื่อก็ลองให้ใครเอาเหล็กแหลมๆทิ่มลงบนพื้นดินของวัดที่อยุธยาดูซิ ว่าจะลึกไปไดสักเท่าไหร่ เนื่องจาก
ใต้พื้นดินเหนียวที่เรายืนอยู่นั้นเป็นอิฐมอญล้วนๆ ประมาณว่า สร้างแล้วสร้างอีก
อยุธยากลับมารุ่งเรืองอีกครั้งในสมัยรัตนโกสินทร์ คนอยุธยาแท้ๆที่พลัดถิ่นต่างกลับไปบ้านเกิด
ต่างทำมาหากินตามที่ตนถนัด ส่วนใหญ่ก็ช่วยกันทำนุบำรุง เพื่อให้ความงามยังคงอยู่ต่อไป
ไอ้ส่วนน้อยก็ยังลักเล็กขโมยน้อย ตำรวจก็จับกันไป
ในเมื่อวันนี้อยุธยากลับมาเริ่มลำบากอีกครั้ง งานกาชาดครั้งนี้หวังว่าจะให้คนอยุธยาได้หายใจคล่องมากขึ้น
ไม่มากก็น้อย ก็น่าจะเห็นใจพวกเค้า ถึงแม้ว่าอาจจะมีการเสียหายเพิ่มขึ้นอีกนิดสสส์
หลังจากนั้นเค้าก็คงมาบูรณะเหมือนอย่างเคย เพื่อลมหายใจของลูกหลานชาวอยุธยาน่ะ
ใครอยากรู้เพิ่มเติมก็ให้ไปดูของจริงกันเลย แต่อยากวอนให้ทุกท่านแต่งกายสุภาพในการเยี่ยมชมโบราณสถาน
ใครใส่สายเดี๋ยวขอให้ท้องเฟ้อ ไปทุกที เห็นทุกที ไอ้สายเดี่ยวเนี่ย ไม่รู้ว่ามันร้อนยังงัยซิน่า.