ป่ะป่ะป่ะ ปายยยย สังขละ กันงับ Post by : beaw1997 : 2009-08-24 18:53:28

ชมไทยwww.chomthailand.com ติดต่อโฆษณา บทความ แนะนำการท่องเที่ยว IDLINE : akechomthai T. 089-780 1770 e-mail : chomthailand@gmail.com

ป่ะป่ะป่ะ ปายยยย สังขละ กันงับ

Detail

ซีวิตช้านมีแต่หมาพาปายยยยย...

beaw1997 [2009-08-24 18:53:28] mail not show

1 [ 2 ] [ 3 ]

Comment : 1

หลังจากที่คนขับรถตู้ ต.จ.ว.จอมซื่อบื้อพาสมาชิกออกนอกเส้นทางไป 15 ก.ม. รวมขากลับร่วม 30 ก.ม.
ก็พาไปถึงจุดหมายแรก... สะพานสายมรณะ โดนซะขนาดนี้ไม่มระณังก็ม่ายรู้จะว่าอะไรแว๊วๆๆๆ

beaw1997 [2009-08-24 18:56:11] mail not show

Comment : 2

มาปาด..... ภาพสีสด ๆๆ

chao-chomthai [2009-08-24 18:59:22] mail not show

Comment : 3

ไปอึแป๊บเดียวโดนปาดซะแว้ววว

beaw1997 [2009-08-24 19:02:25] mail not show

Comment : 4

ออกจากตัวเมืองกาญเราก็ไปต่อกันที่ถ้ำกระแช่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ระหว่างทางผ่านที่จะไปสังขละ

ถ้ำกระแซ ถ้ำนี้เป็นถ้ำที่เคยเป็นที่พักของเชลยศึกเมื่อครั้งสร้าง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 55 กิโลเมตร
ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 กิโลเมตรที่ 29–30 ตัวถ้ำติดกับเส้นทางรถไฟสายกาญจนบุรี–น้ำตก
สามารถมองเห็นแม่น้ำแควน้อย ซึ่งเป็นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ภายในถ้ำโปร่งและมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่
มองจากหน้าถ้ำมาที่บริเวณทางรถไฟจะเห็นทิวทัศน์ที่งดงามมาก เป็นจุดที่สร้างทางรถไฟยากที่สุด
เนื่องจากเส้นทางโค้งเลียบเขา เบื้องล่างเป็นแม่น้ำแควน้อย

beaw1997 [2009-08-24 19:06:10] mail not show

Comment : 5

คนนี้สาวงามแห่งเมืองกาญจนบุรี ดีกรีนางงามสายสะพานข้ามแม่น้ำแควเลยล่ะครับ

beaw1997 [2009-08-24 19:15:51] mail not show

Comment : 6

สีสดจริงๆ เลยครับพี่ อดใจไม่ไหว

ake_chomthai [2009-08-24 19:16:11]

Comment : 7

ขอสองเหรอนุกนิก

beaw1997 [2009-08-24 19:16:33] mail not show

Comment : 8

ของขายแถวๆนั้น ห้อยพระรุ่นนี้ยิงไม่โดนคนครับ แต่โดนพระแทนพระอันใหญ่เท่ากระดาน

beaw1997 [2009-08-24 19:17:43] mail not show

Comment : 9

แว๊นซ์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เอี๊ยดดดดดดด เจอสีสดปาดหน้า อิอิ

KARN [2009-08-24 19:19:20]

Comment : 10

สวัสดีครับพี่เอก

beaw1997 [2009-08-24 19:19:40] mail not show

Comment : 11

จุดหมายถัดมา HELL Fire Pass ช่องไฟนรก

beaw1997 [2009-08-24 19:25:17] mail not show

Comment : 12

ช่องเขาขาด กาญจนบุรี

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารลูกพระอาทิตย์หรือญี่ปุ่น ซึ่งเข้าเป็นพันธมิตรกับเยอรมัน
ซึ่งนำโดยฮิตเลอร์ ได้ฟาดหัวฟาดหางในประเทศต่างๆ ในย่านนี้อย่างเต็มที่
ซึ่งก็ได้ถล่มเอาประเทศในย่านนี้ยับไปไม่เป็นท่า นอกจากนี้
ยังได้สร้างความทุกข์อยากให้กับประชาชนอย่างแสนสาหัส เช่น การบังคับสตรีมาเป็นนางบำเรอให้กับทหารของตน
ส่วนผู้ชายก็ถูกบังคับใช้แรงงานอย่างทารุณ

สถานอนุสรณ์ที่แสดงถึงความโหดเหี้ยมของทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในประเทศไทยคือ
สะพานข้ามแม่น้ำแคว ในจังหวัดกาญจนบุรี และมีอีกสถานที่หนึ่งที่คนทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งคือ
ช่องเขาขาด ซึ่งก็อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรีเช่นกัน

ช่องเขาขาดเป็นเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า ที่ญี่ปุ่นต้องการสร้างผ่าน
และดำเนินการสร้างโดยเชลยศึกชาวออสเตรเลีย และเชลยศึกฝ่ายพันธมิตร
เล่ากันว่าช่องทางที่เรียกว่าช่องเขาขาดนี้ ทหารญี่ปุ่นใช้ทหารเชลยเป็นทาสในการก่อสร้างทาง
ชีวิตทหารเหล่านั้นล้มตายกันเป็นเบือ เพราะทำงานหนักและโรคภัยไข้เจ็บที่ชุกชุม โดยเฉพาะไข้ป่า

beaw1997 [2009-08-24 19:30:32] mail not show

Comment : 13

ช่องเขาขาดเป็นทางแคบๆ ที่ตัดผ่านเนินเขา มูลดิน ขอบทางรถไฟ และสะพานซึ่งมีอยู่มากมาย
ต่อสถานที่เหล่านี้กลายมาเป็นโครงการพิพิธภัณฑสถานช่องเขาขาด
เพื่อรำลึกถึงเหล่าทหารที่ต้องทุกข์ทรมานเหล่านั้น

การตัดทางผ่านภูเขา มูลดิน ขอบทางรถไฟ และสะพานมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทหารญี่ปุ่น
ในการลำเลียงทหารและเสบียงไปช่วยทหารญี่ปุ่นในประเทศพม่า
ซึ่งขณะนั้นทหารญี่ปุ่นสามารถตั้งมั่นอยู่ในประเทศพม่าแล้ว

การก่อสร้างช่องเขาขาดเริ่มด้วยแรงงานของเชลยศึกชาวออสเตรเลียจำนวน 400 คน
และญี่ปุ่นได้เพิ่มเชลยศึกขึ้นอีกเพื่อให้การก่อสร้างสำเร็จตามกำหนด
ส่วนทหารเชลยศึกที่เพิ่มเข้ามาส่วนมากยังเป็นทหารชาวออสเตรเลีย และทหารจากสหราชอาณาจักร

มีบันทึกว่า บรรดาเหล่าเชลยศึกจะใช้ค้อนหนัก 8 ปอนด์ สว่าน ระเบิด เสียม พลั่ว จอบ
และตะกร้าหวายอันเล็กๆ เพื่อขนดินออกไปเททิ้งข้างนอกทาง และพวกเขาทำงานอย่างทรมาน
บางคนเสียชีวิตอย่างน่าเวทนาในที่ทำงาน

beaw1997 [2009-08-24 19:40:56] mail not show

Comment : 14

ในขณะที่ก่อสร้างเส้นทางสายนี้นั้น เป็นช่วงมรสุมที่รุนแรง
และการก่อสร้างช่องเขาขาดยังต้องเผชิญกับความกดดันอย่างสูงจากวิศวกรชาวญี่ปุ่น และผู้คุมชาวเกาหลี
ที่ได้บังคับให้พวกเขาทำงานวันละ 12-18 ชั่วโมง นับจากเดือนมิถุนายน 2486 จนเดือนสิงหาคมในปีเดียวกัน

ระหว่างการสร้างสะพานรถไฟให้เสร็จทันกำหนดนั้น เหล่าทหารเชลยศึกฝ่ายพันธมิตรขนานนามช่องเขาขาดว่า
ช่องนรก ด้วยเหตุที่ผู้คุมชาวญี่ปุ่นบังคับให้นักโทษทำงานในเวลากลางคืน ใช้แสงสว่างจากคบไฟ
ซึ่งให้ความรู้สึกว่าที่นี่คือขุมนรกบนโลกจริงๆ

ในช่วงที่เร่งสร้างทางรถไฟให้เสร็จตามกำหนดเรียกว่าช่วง สปิโต หรือตอนเร่งรัด
ช่องเขาขาดยังเป็นอนุสรณ์สถานที่ทหารญี่ปุ่นกระทำไว้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ยากจะมีผู้ลืมเลือน

(ข้อความนี้ ได้มาจากสถานทูตออสเตรเลียที่จัดทำขึ้น เพื่อรำลึกถึงทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ 2
ซึ่งพิธีดังกล่าวจัดในวันที่ 25 เมษายน 2547

beaw1997 [2009-08-24 19:41:46] mail not show

Comment : 15

เหล็กทั้งแท่งยังหัก

beaw1997 [2009-08-24 19:45:15] mail not show

Comment : 16

หลังจากช่องไฟนรก เราก็เดินทางกันต่อเพื่อไปยังจุดหมาย สังขละบุรี

beaw1997 [2009-08-24 19:50:55] mail not show

Comment : 17

สังขละบุรี เมืองสามหมอก ดินแดนสามวัฒนธรรม
เมืองแห่งสายน้ำ ขุนเขา และผืนป่าอันอุดม.. เมืองที่มีความงามหลากหลายทาง เชื้อชาติและวัฒนธรรม
ของพี่น้องต่างเผ่าพันธุ์ ทั้งมอญ กระเหรี่ยง ไทย ลาว พม่า ฯลฯ
สังขละบุรี เป็นเมืองสำคัญหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์...สงคราม...ด่านเจดีย์ ทางรถไฟสายมรณะ

สังขละบุรี เป็นอำเภอที่ติดต่อกับชายแดนพม่า ห่างจากตัวเมืองประมาณ 215 กิโลเมตร
และอยู่ห่างจากอำเภอทองผาภูมิ 74 กิโลเมตร เส้นทางนี้จะตัดผ่านภูเขาเลียบทะเลสาบเขื่อนเขาแหลม
มองเห็นทัศนียภาพที่งดงาม อำเภอสังขละบุรีมีชาวมอญอาศัยตั้งบ้านเรือนอยู่เป็นจำนวนมาก
ตัวอำเภอตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า "สามประสบ" คือบริเวณที่ลำน้ำสามสาย อันได้แก่
ห้วยซองกะเลีย ห้วยบิคลี่ และห้วยรันตี ไหลมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำแควน้อย

beaw1997 [2009-08-24 19:52:29] mail not show

Comment : 18

เมื่อเรามาถึงก็ตรงดิ่งมาทีนี่เลย จุดหมายของเรา สะพานมอญ ซึ่งพระเอกของเรารออยู่แล้ว

สะพานมอญ อยู่ในตัวอำเภอสังขละบุรี เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สะพานอุตตมานุสรณ์
เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยมีความยาวถึง 850 เมตร
สร้างข้ามลำน้ำซองกาเลียสำหรับให้ประชาชนฝั่งตัวอำเภอสังขละบุรีและฝั่งหมู่บ้านชาวมอญเดินข้ามสัญจรไปมา
บริเวณสะพานแห่งนี้เป็นจุดชมวิวทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ์ที่สวยงามสามารถมองเห็นลำห้วยสายต่างๆ คือ
ซองกาเลีย บีคลี่ และรันตี ที่ไหลมารวมกันเป็นสามประสบ

beaw1997 [2009-08-24 19:54:01] mail not show

Comment : 19

beaw1997 [2009-08-24 19:55:11] mail not show

Comment : 20

beaw1997 [2009-08-24 19:59:32] mail not show

Comment : 21

กลับมาดูวิวจากที่พักกันครับ

beaw1997 [2009-08-24 20:07:44] mail not show

Comment : 22

ที่นอนเราคืนนี้.......ฮันนี่มูนนนนนซี๊ดดดดดด

beaw1997 [2009-08-24 20:08:39] mail not show

Comment : 23

กลับไปที่สะพานกันต่อ

beaw1997 [2009-08-24 20:24:16] mail not show

Comment : 24

ไปดูเด็กโดดน้ำกัน

beaw1997 [2009-08-24 20:24:42] mail not show

Comment : 25

แว้นซ์ๆๆๆๆๆๆๆๆ

pumcool [2009-08-24 20:34:13]

Comment : 26

โดยเฉพาะ....ไอ้เด็กคนนี้ มานหันมาบอกว่า เพ่ๆๆ โด่น้าร่อละสี่บ่า

beaw1997 [2009-08-24 20:39:52] mail not show

Comment : 27

ยื่นตังให้ไป 4 บาท มานบอกว่า สี่บ่าๆๆ แล้วก็โดด

beaw1997 [2009-08-24 20:40:41] mail not show

Comment : 28

มานเอาจริงวุ๊ย

beaw1997 [2009-08-24 20:41:05] mail not show

Comment : 29

โอ๊ว..ท่าสวย

beaw1997 [2009-08-24 20:41:31] mail not show

Comment : 30

นู่น หันไปมองกล้องโน้น อยากไปออก พิกชล อ่ะดิ๊ ม่ายมองตูเลย

beaw1997 [2009-08-24 20:42:13] mail not show

Comment : 31

อีโน๊ต ตูจ่ายดังนะเฟ๊ย..

beaw1997 [2009-08-24 20:42:45] mail not show

Comment : 32

beaw1997 [2009-08-24 20:43:08] mail not show

Comment : 33

beaw1997 [2009-08-24 20:43:27] mail not show

Comment : 34

beaw1997 [2009-08-24 20:43:48] mail not show

Comment : 35

และแล้วมันก็ลงไป..ตามติดๆไปด้วยลูกสมุน

beaw1997 [2009-08-24 20:44:11] mail not show

Comment : 36

ฮาโน้ตตตตตตตตตตต

pumcool [2009-08-24 20:44:13]

Comment : 37

เฮ้อ...ตูปลงแระ...เสียงไอ้นุกนิกมันบ่น

beaw1997 [2009-08-24 20:50:17] mail not show

Comment : 38

อาโย๋ย...นิค...เขา...สีสดจริงจัดใจ...แจ่มมาก

พี่เบี้ยววววววววววววววว...ขอน้องนางเกาะสายสะพายกล้องไปเดินเล่นสะพานไม้ด้วยคน...

ภาพงามมากจ้า...

สีสด...มากกกกกกกกก...ขอบอก...