ความฝันของนักเดินทางน้อยๆ ที่รักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อได้ชมภาพยนต์บางเรื่องสามารถทำให้เรามีความฝันที่ยิ่งใหญ่ ในการที่จะพิซิตความฝันที่เคยหวังไว้ ว่าสักวันหนึ่ง ณ เมืองสามหมอกจะต้องมีรอยเท้านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ย้ำไปมาบนปลายทางที่จะไปถึงความฝันอันงดงามนี้ได้
การเดินทางเริ่มต้นด้วยการจัดทริปขึ้นมาปลายฤดูฝน ของต้นฤดูหนาว การที่คนกลุ่มหนึ่งอยากจะไปเมืองสามหมอก วันแรกของการเดินทางกับเจ้าม้าเหล็กของเรา จากกรุงเทพ มุ่งหน้าสู่สายเอเชีย เราใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็มาถึงที่ จ.ตาก ณ ตอนนั้นเวลาประมาณ 23.00 น. เราใช้เส้นทางแม่สอด เมื่อผ่านไปสักพักเส้นทางอันคดโค้งเมื่องูเลื่อย ทำให้เราเริ่มหมดแรง แต่หัวใจยังสู้ เส้นทางอำเภอแม่สอด เป็นเส้นทางที่อันตรายมาก โดยเฉพาะเวลากลางคืนเหมือนเราขับรถเข้าไปในป่าดึกดำบรรพ์ โอ้วพระเจ้า!! ทางมันช่างทรหดแท้หลาว จนเวลาล่วงเลยมาจนเช้า เรามาถึงเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาพแรกที่เห็นตรงหน้า ภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยสายหมอก ทำให้ความฝันของเราเริ่มที่จะเป็นจริงให้ซะแล้ว จากรอยต่อระหว่างจังหวัดตากและจังหวัดแม่ฮ่องสอน มายัง อำเภอขุนยวม ก็ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ซึ่งใช้เวลานาน เนื่องจากเส้นทางคดเคี้ยวตลอดเวลา จากอำเภอขุนยวมมุ่งหน้าสู่ทั่งดอกบัวตอง ระหว่างทางเต็มไปด้วยดอกไม้สีเหลืองงามตา นี้หรือปลายทางความฝันที่เรากำลังจะไปถึง ช่างสวยงามเสียจริง จากทุ่งดอกบัวตองเรามุ่งหน้าสู่ ที่ของที่สุดของเมืองสามหมอก นั้นคือ ปางอุ๋ง ที่นี้แหละคือความฝันของเรา ความฝันกำลังจะเป็นจริงและมาถึงในเวลาไม่กี่ชั่วโมงนี้เอง เอาแล้วสิ ตื่นเต้น จากนั้นเวลาล่วงเลยไป 4 ชั่วโมง เรามาถึงที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน แวะซื้อเสบียงอาหารของค่ำคืนนี้ จากนั้นมุ่งหน้าสู่ปางอุ๋ง ในที่สุดความฝันก็อยู่ตรงหน้าเมื่อเราสัมผัสเท้าลง ณ ดินแดนความฝัน ทำให้ชีวิตมีความสุขอย่างที่บอกไม่ถูกเลยทีเดียว อุณหภูมิลดลงอย่างเห็นได้ชัด กองไฟเริ่มจุดประกายเพื่อให้ความอบอุ่น ทุกคนต่างเตรียมเสบียงอาหารของมื้อนี้ ดวงดาวเริ่มระยิบระยับ ทุกคนต่างนอนดูดาวอย่างมีความสุข
การเดินทางอาจจะโหดสำหรับใครบางคน แต่สำหรับผมแล้วเมื่อสัมผัสเมืองแห่งนี้ ผมหลงรักเลยละครับ ใครบอกว่าไม่ไหวแล้วไม่มาอีกแล้ว แต่นั้นไม่ใช่คำพูดของผม ยังไงซะผมจะต้องกลับไปเยือนเมืองสามหมอกอีกแน่นอน (แม่นแท้หลาว)
มีผู้แสดงความรู้สึก (7 คน)