Capoeira
ศิลปะรูปแบบหนึ่งของบราซิลที่เกิดจากการผสมผสานของ การต่อสู้ การเต้น ดนตรี ปรัชญา และอื่นๆ อีกมากมาย
โดยเริ่มต้น
ในประเทศบลาซิล คาโปเอร่าได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากฟุตบอล
และยังถูกบรรจุเป็นวิชาพละศึกษา ในทุกระดับชั้นการศึกษาของบลาซิล นอกจากนั้นยังมีการจัดการแข่งขัน
ตั้งแต่ระดับประเทศจนถึงระดับโลกในทุกๆปี ซึ่งในขณะเดียวกันทางรัฐบาลบลาซิลเอง
ก็กำลังผลักดันให้คาโปเอร่า เข้าไปอยู่ในการแข่งขันโอลิมปิค
การเล่นคาโปเอร่านั้นจะดำเนินอยู่ใน roda (โฮ-ด้า) หรือ วงกลม
โดยที่ผู้เล่นทุกคนยืมล้อมกันเป็นวงและที่หัวของวงกลมนั้นจะมีกลุ่มเครื่องดนตรี หรือ ที่เรียกว่า
Bataria ซึ้งจะคอยเล่นดนตรีเพื่อนที่จะควบคุมจังหวะและอารมณ์ของการเล่นคาโปเอร่าในวง
ซึ้งในขณะที่ผู้เล่นทั้งสองคนเล่นกันอยู่ในโฮด้านั้น
ผู้เล่นคนอื่นที่ยืนล้อมจะร้องเพลงและปรบมือไปตามจังหวะของเครื่องดนตรี
ท่วงท่าของคาโปเอร่าเกิดจากการผสมผสานของการเตะ ก้ม หมุน เหวี่ยง ตีลังกา และการหลอกล่อ
นอกจากนั้นยังมีท่วงท่าพลิกแพลงอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งผู้เล่นสามารถเรียนรู้ได้จากประสบการณ์และการฝึกฝน
รูปแบบของคาโปเอร่าแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ รูปแบบที่ใช้ในการต่อสู้จริง
ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการต่อสู้แบบอื่นๆ คือการมีการปะทะกัน และอีกประเภทหนึ่งก็คือ
การแสดงออกในลักษณะของการละเล่น ซึ่งหลีกเลี่ยงการปะทะกันโดยตรงระหว่างผู้เล่น
หากแต่พยายามคงความลื่นไหลและสอดคล้องของท่วงท่าระหว่างสองผู้เล่นเอาไว้ไปด้วยกัน
แต่ก็มีช่วงชิงการมีเปรียบและเอาชนะกันโดยอาศัยจังหวะและการวางแผนคล้ายกับการเล่นหมากรุก
คาโปเอร่าในลักษณะนี้จึงยังเป็นการละเล่นอันสนุกสนาน มีจังหวะท่วงท่า และเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก
ทั้งยังมีดนตรีและการขับร้องเพิ่มความสนุกสนาน แต่คาโปเอร่านั้นก็ยังคงเป็นศิลปะการต่อสู้
ซึ่งการเล่นในระดับสูงๆ นั้นอาจจะมีการกระทบกระทั่งหรือบาดเจ็บได้
ท่วงท่าของคาโปเอร่าซึ่งสามารถแยกออกได้เป็น 3 ประเภทคือ:
จิงก้า (Ginga) คือ พื้นฐานของ คาโปเอร่าถ้าเปรียบเทียบกับศิลปะการต่อสู้ชนิดอื่นๆก็คือ การเต้น
Footwork เนื่องจากคาโปเอร่านั้นถูกพัฒนาขึ้นมาโดยเป็นเกมการต่อสู้ภายใต้ลักษณะของการละเล่นและดนตรี
footwork ของคาโปเอร่าจึงเต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวที่หลากหลาย เต็มไปด้วยความรู้สึก และความสนุกสนาน
ท่าจิงก้านี้เองที่ทำให้ คาโปเอร่า มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากศิลปะการต่อสู้ประเภทอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด
หลักของจิงก้าก็คือท่าพื้นฐานเริ่มต้นที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงไปสุ่กระบวนท่าโจมตีหรือป้องกันอื่นๆ
การโจมตี (Attaques) การจู่โจมคู่ต่อสู้ของคาโปเอร่านั้นแบ่งออกเป็น การเตะ, ต่อย, ใช้หัวกระแทก,
และการทำให้คู่ต่อสู้ล้ม (Take Down) เช่นการขัดขาหรือการทุ่ม
ซึ่งคาโปเอร่านั้นจะเน้นไปที่ท่าเตะเป็นส่วนใหญ่
ซึ่งการโจมตีหรือการรุกของคาโปเอร่านั้นสามารถใช้ในการสร้างจังหวะของตัวเองและโจมตีคู่ต่อสู้ในขณะเดียวก
ัน
การหลบหลีก หรือ ที่เรียกในภาษาโปรตุเกสว่า Esquivas (เอส-คิ-ว่า)
ถือเป็นพื้นฐานสำคัญอย่างหนึ่งในคาโปเอร่า เพราะผู้เล่นจะต้องสามารถหลบการโจมตีจากคู่ต่อสู้
เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเจ็บตัวและรักษากระแสของเกมไม่ให้หยุดลงด้วย ในกลุ่มท่า Esquivas
นั้นก็ยังมีหมวดแยกออกไปอีกเรียกว่า Negativa (เนกาชิว่า)
ซึ่งเป็นหมวดที่รวมท่าต่างๆของคาโปเอร่าที่ร่างกายส่วนใหญ่ของผู้เล่นจะอยู่ใกล้หรือเคลื่อนไหวเลียดไปกับ
พื้น ท่าเคลื่อนไหวในหมวด เนกาชิว่า
นี้จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถเคลื่อนไหวในขณะที่ล้มหรืออยู่ใกล้กับพื้นได้เร็วขึ้น
เพื่อสามารถใช้เป็นทั้งการหลบหลีกและโจมตีกลับได้
ท่า Acrobatics ท่าต่างๆในหมวดนี้สามารถเรียกในภาษาโปรตุเกสว่า Floreios ซึ่งแปลว่า สวยงาม เช่น
ล้อเกวียน (Au) หรือ การกระโดดตีลังกา และ ท่ากลางอากาศอื่นๆ
ซึ่งเป้าหมายของการเคลื่อนไหวในหมวดนี้ก็เพื่อที่จะทำให้คู่ต่อสู้ตกใจและลังเลซึ่งเป็นการเปิดเป้าหมายให
้เราเข้าไปโจมตีได้ ท่วงท่าในหมวด Acrobatics
นี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คาโปเอร่าเป็นศาสตร์ที่มีสีสันและเอกลักษณ์ด้วย