คาราวานร่วมแห่เทียนพรรษาทางน้ำ กับ ททท.อยุธยา Post by : pich888 : 2012-08-04 04:34:02




Bookmark and Share

คาราวานร่วมแห่เทียนพรรษาทางน้ำ กับ ททท.อยุธยา

Detail

Zoom ++ Click

2 ส.ค. ที่ผ่านมา ททท.อยุธยาเชิญทางชมไทยไปร่วมคาราวานชมแห่เทียนพรรษาทางน้ำที่ตำบลลาดชะโด
ซึ่งกิจกรรมมีตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยครับ มีรูปมาฝากกัน ^_^

โดยนายปราโมทย์ ทรัพย์เย็น ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า
ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกับ สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัยเสนอขายรายการนำเที่ยว
“ กินหรู อยู่สบาย สไตล์ภาคกลาง คาราวานครอบครัวสุขสันต์ มหัศจรรย์เมืองไทย ระหว่างวันที่ ๒-๔ สิงหาคม
ในช่วงเทศกาล วันเข้าพรรษา และร่วมชมงานประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำ ณ คลองลาดชะโด
ในเส้นทางพระนครศรีอยุธยา-สุพรรณบุรี-สระบุรี เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคภาคกลาง
กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงและพักค้างคืน

ผู้สนใจสอบถามข้อมูลได้ ที่ เทศบาลตำบลลาดชะโด 035740263 หรือ ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา 035 246076-7

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:34:02] mail not show 202.183.191.14

1


Comment : 1

Zoom ++ Click

ช่วงเช้านัดเจอกันที่ศาลากลางอยุธยา เพื่อลงทะเบียนและรับเบอร์รถไปติด ซึ่งรถที่เข้าร่วมขับเที่ยวมีกว่า
50 คันเลยครับ

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:36:01] mail not show 202.183.191.14

Comment : 2

Zoom ++ Click

ได้เวลาออกเดินทางกันแล้ว

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:36:45] mail not show 202.183.191.14

Comment : 3

Zoom ++ Click

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:36:56] mail not show 202.183.191.14

Comment : 4

Zoom ++ Click

แวะไหว้หลวงปู่ทิม ที่วัดพระขาวก่อนครับ

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:38:03] mail not show 202.183.191.14

Comment : 5

Zoom ++ Click

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:38:17] mail not show 202.183.191.14

Comment : 6

Zoom ++ Click

มีจุดให้ถ่ายรูปสวยงามครับ

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:39:00] mail not show 202.183.191.14

Comment : 7

Zoom ++ Click

อุโบสถวัด ^_^

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:39:20] mail not show 202.183.191.14

Comment : 8

Zoom ++ Click

มาต่อกันที่ "บ้านเขียว" ครับ

มีอายุเก่าแก่มากกว่าร้อยปี สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่ใน ต.อมฤต อ.ผักไห่
จ.พระนครศรีอยุธยา
เดิมเป็นบ้านของขุนพิทักษ์บริหารผู้ซึ่งเป็นนายแขวงเสนาใหญ่ (ซึ่งก็คือ อ.ผักไห่ในขณะนี้)
บ้านเขียวเป็นบ้านทรงปั้นหยาตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อย ที่เรียกว่าบ้านเขียวเพราะเจ้าของบ้านเกิดวันพุธ
จึงทาบ้านด้วยสีเขียว จนกระทั่งเมื่อขุนพิทักษ์ฯ เจ้าของบ้านสิ้นชีวิต
บรรดาญาติก็้อพยพไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ภรรยาของท่านยกบ้านให้เป็นสมบัติของหลวง
แต่ก็ไม่ได้รับการบูรณะให้คงสภาพเดิม บ้านหลังนี้จึงค่อยๆ ร้างและทรุดโทรมลงเรื่อยๆ
เดิมทีบริเวณหน้าบ้านฝั่งแม่น้ำจะมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นรกครึ้ม ดูวังเวงยิ่งนัก
แต่ก็สร้างเสน่ห์ให้กับตัวบ้าน
จนเมื่อไม่นานนี้ ทางอบต.จึงได้ทำการตัดต้นไม้ออก

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:41:04] mail not show 202.183.191.14

Comment : 9

Zoom ++ Click

มาตอนกลางคืนน่าจะน่ากลัวนะ แต่ตอนนี้เขาจัดตั้งศาลให้มาไหว้ขอขมาก่อนเยี่ยมชมแล้วครับ ไม่ต้องกลัว

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:42:42] mail not show 202.183.191.14

Comment : 10

Zoom ++ Click

จังหวะส่องกล้องจะไปถ่าย มีเงาแวบผ่านตรงหน้าต่าง ...

...หันไปถามเจ้าหน้าที่ ททท. ว่าออกกันมาหมดยัง

เจ้าหน้าที่ตอบว่า "หมดแล้วนะ" ........... อั๊ยย่ะะะ

ก่อนที่จะขนลุกไปมากกว่านี้ ก็มีคนเดินออกมาจากประตู 2 คน เหม่ เล่นเอาเกือบเหวอ เจ้าหน้าที่ ททท.

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:45:37] mail not show 202.183.191.14

Comment : 11

Zoom ++ Click

ช่วงเที่ยงรีบมาดูประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำของตำบลลาดชะโด อ.ผักไห่

โดยมีนายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธี “ แห่เทียนพรรษาทางน้ำ ”

นายเกรียงศักดิ์ พิมพันธ์ดี นายกเทศมนตรีตำบลลาดชะโด และนายปราโมทย์ ทรัพย์เย็น ผู้อำนวยการ
ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ พร้อมหัวหน้าหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ประชาชนทั่วไป จำนวนกว่า 1,000 คน เข้าร่วม ที่ คลองลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา


นายเกรียงศักดิ์ พิมพันธ์ดี นายกเทศมนตรีตำบลลาดชะโด กล่าวว่า
การจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
เพื่อร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทยวันเข้าพรรษา และส่งเสริมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
โดยในปีนี้มีเรือของประชาชนและพื้นที่ใกล้เคียง จำนวนมากกว่า 100 ลำ
เข้าร่วมพิธีแห่เทียนจำนำพรรษาพร้อมตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อเข้าร่วมประกวด
โดยเรือทุกลำจะล่องไปตามคลองลาดชะโด มุ่งหน้าไปสู่ตลาดลาดชะโด ระยะทาง 5 กิโลเมตร
และจะได้ชมความสวยงามของหมู่บ้าน และวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวกรุงเก่าตลอดสองฝั่งแม่น้ำ
ซึ่งเทียนดังกล่าวจะได้นำไปถวายวัดลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.พระนครสรีอยุธยา และวัดใกล้เคียง
เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษาได้ใช้ประโยชน์ตลอดระยะเวลา 3 เดือน

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:48:27] mail not show 202.183.191.14

Comment : 12

Zoom ++ Click

มีเรือมาร่วมแห่มากมาย

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:49:16] mail not show 202.183.191.14

Comment : 13

Zoom ++ Click

จัดเต็มทุกคน

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:49:43] mail not show 202.183.191.14

Comment : 14

Zoom ++ Click

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:49:59] mail not show 202.183.191.14

Comment : 15

Zoom ++ Click

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:50:14] mail not show 202.183.191.14

Comment : 16

Zoom ++ Click

มีประกวดเรือที่แห่ด้วย ก็สร้างสรรค์กันไป

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:50:59] mail not show 202.183.191.14

Comment : 17

Zoom ++ Click

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:51:23] mail not show 202.183.191.14

Comment : 18

Zoom ++ Click

เป็นเรื่องดีที่ได้เห็นกับตาว่า ประเพณีไทยยังได้รับการสืบทอด และหวังว่า
ลูกหลานรุ่นต่อๆไปจะได้เห็นแบบเดียวกัน

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:53:11] mail not show 202.183.191.14

Comment : 19

Zoom ++ Click

หาอะไรกินสักหน่อยครับ ตลาดลาดชะโดมีของกินเพียบ

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:54:14] mail not show 202.183.191.14

Comment : 20

Zoom ++ Click

ลองมาเดินดูครับ ทั้งผัดไท ก๋วยเตี๋ยว ขนมหวานและอีกมากมาย

บอกได้คำเดียว ...เพลิน

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:55:33] mail not show 202.183.191.14

Comment : 21

Zoom ++ Click

บรรยากาศยังคงความคลาสสิคอยู่มากเลย ^^

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:56:19] mail not show 202.183.191.14

Comment : 22

Zoom ++ Click

เจ้าถิ่นที่เคารพครับ

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:57:16] mail not show 202.183.191.14

Comment : 23

Zoom ++ Click

ได้เวลามาถวายเทียนพรรษาแล้วครับ ถวายที่วัดลาดชะโดนี่แหละ

ซึ่งบรรยากาศเดาได้ไม่ยากว่า สนุกสนานตามสไตล์ไทยเราครับ

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:58:25] mail not show 202.183.191.14

Comment : 24

Zoom ++ Click

ฝนพรมลงมานิดหน่อย คิดซะว่าเป็นน้ำมนต์ล่ะกัน

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:59:11] mail not show 202.183.191.14

Comment : 25

Zoom ++ Click

อนุโมทนา สาธุคร๊าบบบ

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 04:59:51] mail not show 202.183.191.14

Comment : 26

Zoom ++ Click

คาราวานเดินทางต่อไปทุ่งมะขามหย่อง รอชมภาพจากเพื่อนๆนะครับ

ตรงนี้ขอสารภาพว่า ผมนอนอยู่ในรถครับ เพราะสภาพร่างกายนอนน้อยมาหลายวัน ง่วงเต็มที่มากๆ
เดี๋ยวจะหลับในซะก่อน ฮ่าๆๆ

เอาลิ้งค์ประวัติมาฝากทดแทนครับ

http://hilight.kapook.com/view/71156

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:02:46] mail not show 202.183.191.14

Comment : 27

Zoom ++ Click

จากทุ่งมะขามหย่อง ททท. ก็พาคณะคาราวานไปร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน พร้อมล่องแม่น้ำเจ้าพระยาชมวิว 2
ข้างทางยามเย็น ^_^

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:04:25] mail not show 202.183.191.14

Comment : 28

Zoom ++ Click

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:04:44] mail not show 202.183.191.14

Comment : 29

Zoom ++ Click

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:05:03] mail not show 202.183.191.14

Comment : 30

Zoom ++ Click

อาหารอร่อยๆทั้งนั้น ^_^

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:05:33] mail not show 202.183.191.14

Comment : 31

Zoom ++ Click

แต่เด็ดสุดยกให้ น้ำพริกลงเรือครับ

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:06:09] mail not show 202.183.191.14

Comment : 32

Zoom ++ Click

ผ่านวัดพุทธไธสวรรค์

วัดพุทไธศวรรย์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ในตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา วัดพุทไธศวรรย์เป็นพระอารามหลวงที่ใหญ่โตและมีชื่อเสียงวัดหนึ่ง
ปรากฏตามตำนานว่าสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง)
ทรงสร้างขึ้นในบริเวณที่ซึ่งเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับเมื่อทรงอพยพมาตั้งอยู่ก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาเ
ป็นราชธานี ที่ตรงนี้มีชื่อปรากฏในพระราชพงศาวดารว่า "ตำบลเวียงเล็กหรือเวียงเหล็ก"
ครั้นเมื่อสถาปนากรุงศรีอยุธยาแล้ว ถึง พ.ศ. 1896 จึงโปรดให้สร้างวัดนี้ขึ้นเป็นพระราชอนุสรณ์ ณ
ตำบลซึ่งพระองค์เสด็จมาตั้งมั่นอยู่แต่เดิม และพระมหากษัตริย์องค์ต่อ ๆ
มาก็คงจะได้โปรดให้สร้างถาวรวัตถุ เพิ่มเติมขึ้นอีกหลายอย่าง อนึ่ง เมื่อเสียกรุงฯ ในปี พ.ศ. 2310
วัดพุทไธศวรรย์ก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่มิได้ถูกพม่าทำลายเหมือนวัดอื่น ๆ
ทุกวันนี้จึงยังมีโบราณสถานไว้ชมอีกมากมาย

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:08:39] mail not show 202.183.191.14

Comment : 33

Zoom ++ Click

โบสถ์นักบุญยอเซฟ

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:10:31] mail not show 202.183.191.14

Comment : 34

Zoom ++ Click

โชคดีที่เรือที่เรานั่งมา มีดาดฟ้าเรือให้ขึ้นไปรับลมชมวิว อิอิ

พวกเราชมไทยเลยขอถ่ายรูปร่วมกับ คุณปราโมทย์ ทรัพย์เย็น ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา
ซะหน่อย ^_^

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:12:53] mail not show 202.183.191.14

Comment : 35

Zoom ++ Click

วัดไชยวัฒนาราม เป็นอีกวัดที่ไม่ควรพลาด หากได้ไปเยือนอยุธยา ^^

ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2173 โดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นบนที่ที่เป็น
บ้านเดิมของพระองค์เพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายพระราชมารดา

แต่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์ เธอฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรง
สันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือกรุงละแวก(พนมเปญ)
โดยจำลองแบบมาจากปราสาทนครวัด

วัดไชยวัฒนาราม มีปรางค์ประธานและปรางค์มุมอยู่บนฐานเดียวกัน พระปรางค์ประธานนำรูป
แบบของพระปรางค์สมัยอยุธยา ตอนต้นมาก่อสร้าง แต่ปรางค์ประธานที่วัดไชยวัฒนารามทำมุขทิศยื่นออกมามากกว่า


บนยอดองค์พระปรางค์ใหญ่อาจเคย ประดิษฐานพระเจดีย์ขนาดเล็กสื่อถึงพระเจดีย์จุฬามณีบนยอดเขาพระสุเมรุ
รอบพระปรางค์ใหญ่ล้อมรอบไปด้วยระเบียงคต ที่เดิมนั้นมีหลังคา
ภายในระเบียงคตประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่เคยลงรักปิดทองจำนวน 120 องค์ เป็นเสมือน
กำแพงเขตศักดิ์สิทธิ์ ตามแนวระเบียงคตตรงทิศทั้งแปดสร้างเมรุทิศ และ เมรุมุม(เจดีย์รอบๆพระปรางค์ใหญ่)
ภายในเมรุทุกองค์ ประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่อง ภายในซุ้มเรือนแก้วล้วนลงรักปิดทองจำนวน120 องค์
เป็นเสมือนกำแพงเขต ศักดิ์สิทธิ์ ตาม แนวระเบียงคตตรงทิศทั้งแปดสร้างเมรุทิศ และ เมรุมุม(เจดีย์รอบๆพระ
ปรางค์ใหญ่) ภายในเมรุทุกองค์ประดิษฐานพระพุทธ รูปทรงเครื่อง ภายในซุ้มเรือนแก้วล้วนลงรักปิดทอง ฝ่า
เพดานทำด้วยไม้ประดับลวดลายลงรักปิดทองเช่นกัน

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:16:17] mail not show 202.183.191.14

Comment : 36

Zoom ++ Click

ระหว่างทางเราจะเห็นร่องรอยของน้ำที่ท่วมหนักเมื่อปีที่แล้วอยู่ประปราย

ขอให้ปีนี้ประเทศไทยจงแคล้วคลาดภัยพิบัติทั้งหลายด้วย เสียดายที่ท่องเที่ยวอันมีค่า

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:18:47] mail not show 202.183.191.14

Comment : 37

Zoom ++ Click

วันนี้แดดร่ม ลมโชย สบายๆดีจังเลย ถ่ายหมู่กันอีกสักภาพ ^_^

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:19:58] mail not show 202.183.191.14

Comment : 38

Zoom ++ Click

เดินทางมาจุดสุดท้ายของวันนี้ เพื่อมาเวียนเทียนกัน

วัดพนัญเชิง เป็นวัดที่มีประวัติอันยาวนาน ก่อสร้างก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา
และไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง ตามหนังสือพงศาวดารเหนือกล่าวว่า
พระเจ้าสายน้ำผึ้งเป็นผู้สร้าง และพระราชทานนามว่า วัดเจ้าพระนางเชิง [ต้องการอ้างอิง]
และพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์กล่าวไว้ว่า ได้สถาปนาพระพุทธรูปพุทธเจ้าพแนงเชิง
เมื่อปี พ.ศ. 1867 ซึ่งก่อนพระเจ้าอู่ทองจะสถาปนากรุงศรีอยุธยาถึง 26 ปี

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:34:31] mail not show 202.183.191.14

Comment : 39

Zoom ++ Click

พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ และใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา
หน้าตักกว้าง 20 เมตรเศษ สูง 19 เมตร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย

เคยได้รับความเสียหายในสมัยเสียกรุง แต่ก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอด
จนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ. 2497
ได้โปรดเกล้าให้บูรณะใหม่หมดทั้งองค์ และพระราชทานนามใหม่ว่า พระพุทธไตรรัตนนายก
หรือที่รู้จักกันในหมู่พุทธศาสนิกชนชาวไทยเชื้อสายจีนว่า หลวงพ่อซำปอกง

คำว่า พแนงเชิง มีความหมายว่า นั่งขัดสมาธิ ฉะนั้น คำว่า วัดพนัญเชิง / วัดพระแนงเชิง หรือ /
วัดพระเจ้าพแนงเชิง จึงหมายถึงวัดแห่งพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัยคือ หลวงพ่อโต หรือ พระพุทธไตรรัตนนายก
นั้นเอง

หรืออาจสืบเนื่องมาจากตำนานเรื่องพระนางสร้อยดอกหมาก คือ เมื่อพระนางสร้อยดอกหมากกลั้นใจตายนั้น
พระนางคงนั่งขัดสมาธิ เพราะชาวจีนนิยมนั่งขัดสมาธิมากว่านั่งพับเพียบจึงนำมาใช้เรียกชื่อวัด
บางคนก็เรียกว่า วัดพระนางเอาเชิง ตามสาเหตุที่ทำให้พระนางถึงแก่ชีวิต

ฉะนั้น ถ้าเรียกนามวัดตามความหมายของคำว่า วัดพนัญเชิง ก็ย่อมหมายความถึงวัดที่มีพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิ
คือหลวงพ่อโต

( อ้างอิงจากประวัติวัดพนัญเชิงข้อมูลของทางวัดในปัจจุบัน )

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:36:23] mail not show 202.183.191.14

Comment : 40

Zoom ++ Click

ต้องขอขอบคุณทาง ททท.อยุธยาด้วยครับ ที่ชวนเชิญพวกเราชมไทยไปร่วมกิจกรรมดีดีแบบนี้

ขอบคุณ เรือท่องเที่ยวและอาหารอร่อยๆจาก ห้องอาหารเรือนรับรอง จ.อยุธยาด้วยครับ

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:39:33] mail not show 202.183.191.14

Comment : 41

Zoom ++ Click

อยุธยา เป็นจังหวัดที่ผมไปบ่อยมากๆ แต่ไม่เบื่อ ด้วยเหตุว่าไม่ไกล กทม. และมีสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ
มีคุณค่า มีความคลาสสิคอยู่มาก

โดยเฉพาะที่ตลาดลาดชะโด อ.ผักไห่ มาครั้งที่ 3 เข้าให้แล้ว และคงจะมีครั้งต่อๆไป

ไปดูครั้งแรกที่ตลาดลาดชะโดเปิดตัวกันครับ

http://www.chomthai.com/forum/view.php?qID=1649

ครั้งที่ 2 ที่ โฮมสเตย์คลองรางจรเข้อันร่มรื่น (แนะนำๆ) ^_^

http://www.chomthai.com/forum/view.php?qID=2089

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:41:57] mail not show 202.183.191.14

Comment : 42

Zoom ++ Click

" การท่องเที่ยวหัวใจใหม่ เมืองไทยยั่งยืน " ประกอบด้วยคุณค่า ๕ ประการ คือ

1. การท่องเที่ยวโดยมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม ซึ่งจะก่อให้เกิดคุณค่าและความภาคภูมิใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบธุรกิจทุกภาคส่วน และนักท่องเที่ยวต้องมีจิตสำนึกที่รัก หวงแหน
และรู้คุณค่าของสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรการท่องเที่ยวต่าง ๆ
ช่วยกันดูแลเพื่อให้สิ่งเหล่านี้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป ทำธุรกิจอย่างไม่คดโกงเอาเปรียบ
ทั้งกับทรัพยากรการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยว

2. การท่องเที่ยวด้วยมุมมองที่สร้างสรรค์ ก่อให้เกิดแนวคิดใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการสร้างคุณค่า
หรือเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพยากรการท่องเที่ยว สร้างสรรค์สิ่งที่ดี ผลิตภัณฑ์ที่ดี บริการที่ดี
กิจกรรมการท่องเที่ยวที่ดี รู้จักพัฒนาความคิด พัฒนาพื้นที่ที่มีอยู่อย่างสร้างสรรค์
และไม่ทำให้เสื่อมสลาย

3. คือการท่องเที่ยวที่ทำให้สายสัมพันธ์แน่นแฟ้น เสริมสร้างความผูกพันและสามัคคีระหว่างกันทุกภาคส่วน
ทั้งผู้ประกอบธุรกิจ นักท่องเที่ยว ชุมชนเจ้าของพื้นที่ รู้จักพึ่งพาซึ่งกันและกัน
ไม่เอารัดเอาเปรียบและคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ซึ่งจะก่อให้เกิดความเข้าอกเข้าใจกัน
และเห็นคุณค่าในความแตกต่างของกันและกันมากขึ้น

4. คือการท่องเที่ยวด้วยความเข้าใจ จะทำให้เกิดการเรียนรู้ เกิดประสบการณ์ใหม่ ๆ
เกิดความเชื่อมโยงและก่อให้เกิดปัญญา เข้าใจถึงคุณค่าของสิ่งที่ล้ำค่าของประเทศ ทั้งขนบธรรมเนียม
ประเพณีวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อมที่ต่างกัน และซึมซับเข้าไปในจิตใจ

5. หรือประการสุดท้ายก็คือ การท่องเที่ยวด้วยหัวใจ คือการไปด้วยความรัก ความปรารถนาดี
ความผูกพันและความหวงแหน ซึ่งจะทำให้หัวใจรักในการอนุรักษ์ เห็นถึงคุณค่า เคารพในสถานที่ท่องเที่ยวนั้น
ๆ ทำให้การท่องเที่ยวเป็นมากกว่าที่ตาเห็น แต่สัมผัสได้ด้วยหัวใจ ซึ่งจะยั่งยืนอยู่คู่ประเทศไทยต่อไป

จากการเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ใดก็ตามที่เราชื่นชอบ ได้ชื่นชมความงามของธรรมชาติ
ประทับใจกับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย เพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมประเพณี
หรือมีความสุขเมื่อเห็นความงามทางประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้
เพียงแค่เราออกไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านั้นด้วยหัวใจใหม่ เพื่อให้เมืองไทยยั่งยืน

m_pich888.jpg pich888 [2012-08-04 05:51:20] mail not show 202.183.191.14

Comment : 43

สนุกสนาน ได้บุญ และมีความสุขมากเลยครับ ทุกภาคส่วนจัดงานนี้ได้อย่างดีมาก ขอชื่อชมครับ

m_740ef53.jpg ake_chomthai [2012-08-04 10:18:41] mail not show 27.55.9.248

Comment : 44

ดูแล้วน่าไปมากมายย ได้บรรยากาศความเป็นไทยดี

Post by : Mai [2012-08-04 13:31:27] 124.122.42.41

1

Bookmark and Share

Reply

 



Board v.0.12 beta :: Powered by : PacketLove.com | ГСєทУ SEO | electric cigarette | аЗзєдซตмКУаГзЁГЩป | аЗзєКУаГзЁГЩป | №СиงКБТёФ| КตФปСЇฐТ№ dentist bangkok | implant bangkok | veneer bangkok | implant thailand | dentist sukhumvit | dental sukhumvit | fast braces bangkok | tooth whitening bangkok | Huahin Resort | Pool Villa Huahin |

© 2543-2562-CHOMTHAILAND, All rights reserved.