Bookmark and Share

อโยธยาศรีรามเทพนคร 2555

Detail

Zoom ++ Click

ไปตะลุยแดด หลบ คนสาดน้ำที่อยุธยา

ตระเวณไหว้พระทำบุญ ตามสถานที่ต่างๆ

สู้แดดไหวก็ถ่ายภาพ ถ้าสู้ไม่ไหวก็ หลบ

เหมาตุ๊กๆ วิ่ง 9 วัดที่อยุธยา โดนไป จิ๊บๆ 700 บาทตั้งแต่ เวลา 13.00 น.ถึงเวลา 18.00 น.


ภาพเปิดกระทู้

พระพุทธนิมิตรวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่
ประดิษฐานอยู่ที่วัดหน้าพระเมรุ มีพุทธลักษณะงดงามมาก
สันนิษฐานว่าได้รับการปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
เนื่องจากมีพุทธลักษณะคล้ายคลึงกับพระพุทธรูปปูนปั้น ที่ประดิษฐานอยู่ภายใน เมรุทิศ เมรุมุมของระเบียงคต
วัดไชยวัฒนาราม ที่สร้างขึ้นในรัชกาลของพระอง

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 12:18:25] mail not show 58.8.149.221

1


Comment : 1

Zoom ++ Click

ที่พัก 2 วัน 2 คืน ที่อยุธยา

กรุงศรีริเวอร์ จองผ่านอะโกด้า ในราคา 2 วัน ABF 2 คนทั้งสองวันด้วย 3400 บาท(ประมาณ)

ภาพโรงแรมและนางแบบส่วนตัว ^__^

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 12:21:33] mail not show 58.8.149.221

Comment : 2

Zoom ++ Click

หลังจากวางกระเป๋า เข้าห้องพัก

ก็แวะรับประทานอาหาร เที่ยงที่ก๋วยเตี๋ยวเรือ ป้าเล็กหน้าวัดมหาธาตุ

เสียดายไม่ได้เก็บภาพมาฝาก เราก็เดินข้ามถนนมายัง

จุดท่องเที่ยว Unseen Thailand วัดมหาธาตุ อยุธยา

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 12:26:14] mail not show 58.8.149.221

Comment : 3

Zoom ++ Click

จุดที่เป็น UNSEEN คือตรงนี้

เศียรพระพุทธรูป ที่ทำจากหินทราย อยู่ในต้นโพธิ์

ข้อมูลนิดนึง จาก วิกิพีเดีย
วัดมหาธาตุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นหนึ่งในวัดในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
วัดมหาธาตุเป็นวัดที่มีความสำคัญยิ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา
เพราะเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุุใจกลางพระนคร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งยังเป็นที่พำนักของ
สมเด็จพระสังฆราช ฝ่ายคามวาสีอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงได้รับการก่อสร้าง และ
ดูแลตลอดเวลาจวบจนถูกทำลายลงหลังเสียกรุงครั้งที่

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 12:28:33] mail not show 58.8.149.221

Comment : 4

Zoom ++ Click

ประวัติ

วัดมหาธาตุเป็นวัดที่เก่าแก่และมีประวัติที่ไม่ค่อยจะชัดเจน บางฉบับบอกว่า ในปี พ.ศ. 1917 บางฉบับก็บอก
พ.ศ. 1927 แต่อย่างไรก็ตาม ได้ใช้เวลาก่อสร้างไปเป็นจำนวนมาก
ในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พระปรางค์เคยพังลงมาเกือบครึ่งองค์ถึงชั้นครุฑ
ปรางค์ของวัดนี้เดิมทีเดียวสร้างด้วยศิลาแลง แต่จะด้วยเหตุผลประการใดไม่ทราบ
จึงยังมิได้ซ่อมแซมให้คืนดีดังเดิม ในรัชกาลนั้น ต่อมาสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงบูรณะใหม่
รวมเป็นความสูง 25 วา แต่ก็ได้พังทลายลงมาอีกรอบในรัชสมัยรัชกาลที่ 5
และต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนำกำลังทหารไปช่วยกันสร้างยอดพระปรางค์ด้วยไม้
สักชั้นเยี่ยมและได้สถาปนาให้เป็นพระปรางค์ประจำชาติ และในที่สุด
พระปรางค์วัดมหาธาตุก็ยังคงอยู่ที่นั้นตลอดไป

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 12:29:25] mail not show 58.8.149.221

Comment : 5

Zoom ++ Click

สิ่งก่อสร้าง

พระปรางค์ขนาดใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันพังทลายลงมาหมดแล้ว แต่ราชทูตลังกาที่ได้เคยมาเยี่ยมชมวัดมหาธาตุ
ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศไว้ว่า ที่ฐานของพระปรางค์ มีรูปราชสีห์ หมี หงส์ นกยูง กินนร โค สุนัขป่า
กระบือ มังกร เรียงรายอยู่โดยรอบ
รูปเหล่านี้อาจหมายถึงสัตว์ในป่าหิมพานต์ที่รายล้อมอยู่เชิงเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นแกนกลางของจักรวาล
เจดีย์แปดเหลี่ยม เป็นเจดีย์ลดหลั่นกัน 4 ชั้น 8 เหลี่ยม ชั้นบนสุดประดิษฐานปรางค์ขนาดเล็ก
ซึ่งเจดีย์องค์นี้จัดว่าเป็นเจดีย์ที่แปลกตา พบเพียงองค์เดียวในอยุธยา
วิหารที่ฐานชุกชี ของพระประธานในวิหาร กรมศิลปากรพบว่ามีผู้ลักลอบขุดลงไปลึกถึง 2 เมตร จึงดำเนิน
การขุดต่อไปอีก 2 เมตร พบภาชนะดินเผาขนาดเล็ก 5 ใบ บรรจุแผ่นทองเบาๆรูปต่างๆ
วิหารเล็ก วิหารเล็กแห่งนี้ มีรากไม้แผ่รากขึ้นเกาะเต็มผนัง
รากไม้ส่วนหนึ่งได้ล้อมเศียรพระพุทธรูปไว้ธรรมดา กรมศิลปากรจะต้องตัดต้นไม้ออก
แต่ที่นี่ดูจะว่าเป็นที่ยกเว้น
พระปรางค์ขนาด กลางภายในพระปรางค์ มีภาพจิตรกรรม เรือนแก้วซึ่งเป็นตอนหนึ่งในพุทธประวัติ
ตำหนักพระสังฆราช บริเวณพื้นที่ว่างทางด้านทิศตะวันตก เป็นสถานที่ที่เป็นที่ตั้งพระตำหนักพระสังฆราช
ราชทูตลังกาได้บอกไวว่า เป็นตำหนักที่สลักลวดลายปิดทอง มีม่านปักทอง พื้นปูพรม
มีขวดปักดอกไม้เรียงรายเป็นแถวเพดานแขวนอัจกลับ (โคม) มีบังลังก์ 2 แห่ง

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 12:37:13] mail not show 58.8.149.221

Comment : 6

Zoom ++ Click

พระปรางค์ขนาดเล็ก ในวัดมหาธาตุ

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 12:38:13] mail not show 58.8.149.221

Comment : 7

Zoom ++ Click

พระมงคลบพิตร พระพุทธรูปบุสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ ประดิษฐาน ณ วิหารพระมงคลบพิตร

พระมงคลบพิตร เป็นพระพุทธรูปใหญ่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์องค์เดียวในประเทศไทย ลงรักปิดทองมีแกนเป็นอิฐ
ส่วนผิวนอกบุด้วยสำริด ทำเป็นท่อนๆมาเชื่อมกัน สูง ๑๒.๕๔ เมตร หน้าตักกว้าง ๔ วาเศษ
สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระไชยราชา ราวพ.ศ. ๒๐๘๑ เดิมประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง
ต่อมาในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ทรงโปรดเกล้าให้อัญเชิญมาไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของวัดพระศรีสรรเพชญ์

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 12:45:16] mail not show 58.8.149.221

Comment : 8

Zoom ++ Click

ุเศียรพระพุทธรูปใน วิหาร

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 12:46:17] mail not show 58.8.149.221

Comment : 9

Zoom ++ Click

เดินออกมาด้านหน้า วิหาร เพื่อไปเยี่ยมชม บริเวณวัดพระศรีสรรเพชญ์

นางแบบส่วนตัว ก็ถ่ายภาพนี้ เป็น ตรีม ...

ร้อน มากกกกกกเหอๆๆ

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 12:48:40] mail not show 58.8.149.221

Comment : 10

Zoom ++ Click

จุดเด่น มุมมหาชน ของวัดพระศรีสรรเพชญ์

ประวัติ

วัดพระศรีสรรเพชญ์ เดิมในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ใช้เป็นที่ประทับ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
ทรงสร้างพระราชมณเฑียรขึ้นใหม่ทางตอนเหนือ แล้วจึงโปรดฯให้ยกเป็นเขตพุทธาวาส เพื่อประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ
ของบ้านเมือง จึงเป็นวัดในเขตพระราชวังที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา แตกต่างกับวัดมหาธาตุสุโขทัย
ที่มีพระสงฆ์จำพรรษา ทั้งวัดมหาธาตุ สุโขทัย,วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ต่างก็ถูกสถาปนาขึ้นในมูลเหตุการสร้างวัดเดียวกันนั่นคือ
"สร้างเพื่อเป็นวัดประจำพระราชวัง"
ต่อมาในปี พ.ศ. 2035 รัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างพระสถูปเจดีย์องค์ตะวันออก เพื่อบรรจุพระอัฐิของพระราชบิดา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
และพระสถูปเจดีย์องค์กลางเพื่อบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 ผู้เป็นพระเชษฐา
หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2042 พระองค์โปรดให้สร้างพระวิหารหลวงขึ้น
ในปีต่อมา พ.ศ. 2043 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงสร้างพระวิหาร ทรงหล่อพระพุทธรูป ยืนสูง 8 วา (ประมาณ
16 เมตร) หุ้มด้วยทองคำหนัก 286 ชั่ง (ประมาณ 171 กิโลกรัม) ประดิษฐานไว้ในวิหาร ถวายพระนามว่า
พระศรีสรรเพชญดาญาณ ซึ่งภายหลังเมื่อเสียกรุง พ.ศ. 2310 พม่าได้เผาลอกทองคำไปหมด และองค์พระพังยับเยิน
รัชกาลที่ 1 จึงโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายมาประดิษฐานวัดพระเชตุพน และ
บรรจุชิ้นส่วนซึ่งบูรณะไม่ได้เหล่านั้นไว้ในเจดีย์องค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นแล้วพระราชทานชื่อเจดีย์ว่า
เจดีย์ศรีสรรเพชญดาญาณ เจดีย์องค์ที่ 3 ถัดมาจากด้านทิศตะวันตกเป็น เจดีย์บรรจุพระอัฐิ
ของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ซึ่งสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4(พระหน่อพุทธางกูร)
พระราชโอรสได้โปรดให้สร้างขึ้น เจดีย์ทั้งสามองค์นี้เป็นเจดีย์แบบลังกา
ในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรมพระองค์โปรดเกล้าฯให้สร้าง 'พระที่นั่งจอมทอง ตั้งอยู่ใกล้ๆ
กำแพงทางด้านติดกับ วิหารพระมงคลบพิตร เพื่อให้เป็นสถานที่ให้พระสงฆ์บอกเล่าหนังสือพระสงฆ์
ราวรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดหลวงแห่งนี้เป็นครั้งแรก
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระยาโบราณราชธานินทร์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่าได้ดำเนิน
การขุดสมบัติจากกรุภายในเจดีย์ พบพระพุทธรูป เครื่องทอง มากมาย และในสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม
ได้มีการบูรณะวัดนี้จนมีสภาพที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 12:49:53] mail not show 58.8.149.221

Comment : 11

Zoom ++ Click

อีกสักที กับมุมมหาชน แดดแรงจัดวัดแสงมั่วเลยผม 555+

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 12:55:00] mail not show 58.8.149.221

Comment : 12

Zoom ++ Click

สภาพของกำแพง อาคารเก่าในวัดพระศรีสรรเพชญ์

น้ำท่วมไม่ได้ทำลายไปมากนัก

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 12:57:59] mail not show 58.8.149.221

Comment : 13

Zoom ++ Click

พระพุทธไสยาสน์ วัดโลกยสุธาราม


วัดโลกยสุธาราม ตั้งอยู่ที่ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ตั้งอยู่ทางด้านหลังพระราชวังหลวง และโรงเรียนประตูชัย ใกล้กับวัดวรโพธิ์ และวัดวรเชษฐาราม



วัดโลกยสุธาราม สันนิษฐานว่าได้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง เนื่องจากวัดนี้มีพระพุทธไสยาสน์
ปางไสยาสน์ลักษณะสมัยอยุธยาตอนกลาง ก่ออิฐถือปูน พระพักตร์หันไปทางทิศเหนือ ที่พระเศียรมีดอกบัวรองรับ
พระบาทซ้อนกันเป็นมุมฉาก นิ้วพระบาทยาวเท่ากัน มีความยาว 42 เมตร และสูง 8 เมตร
พระพุทธไสยาสน์องค์นี้ได้รับการขุดแต่งโดยโรงงานสุรา ร่วมกับกรมศิลปากร เมื่อปี พ.ศ. 2497 และต่อมาในปี
พ.ศ. 2532 คุณหญิงระเบียบ ธำรงนาวาสวัสดิ์ และครอบครัว ได้บูรณะพระพุทธไสยาสน์เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่
นาย ธำรง และ พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 12:58:57] mail not show 58.8.149.221

Comment : 14

Zoom ++ Click

ย้อนมาวัดหน้าพระเมรุอีกสักรอบ

พระพุทธรูปศิลาศิลปะทวาราวดีในวิหารน้อย
วัดหน้าพระเมรุ ในท่านั่งห้อยพระบาท อายุเก่าแก่กว่าพันปี

ทางทิศตะวันออกของพระอุโบสถมีวิหารน้อยที่สร้างขึ้นโดยพระยาชัยวิชิต (เผือก) ในสมัยรัชกาลที่ 3
แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยมีรูปแบบลอกเลียนมาจากพระอุโบสถ
แต่ลดขนาดให้เล็กลงกับทั้งเปลี่ยนหน้าบันให้เป็นลายพรรณษาตามความนิยมของศิลปะในช่วงนั้น
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปแบบทวาราวดีขนาดใหญ่ซึ่งอัญเชิญมาจากวัดมหาธาตุ อยุธยา
เชื่อกันว่าพระพุทธรูปองค์นี้แต่เดิมคงประดิษฐานอยู่ที่จังหวัดนครปฐมมาก่อน และได้ย้ายมายังวัดมหาธาตุ
อยุธยา ราวรัชกาลสมเด็จพระมหาจักรพรรดิก็เป็นได้
พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปศิลาประทับนั่งห้อยพระบาทที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในปัจจุบัน นับเป็น 1
ใน 6 องค์ ที่มีอยู่ในประเทศไทย จึงนับเป็นสิ่งที่มีค่ามาก

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 13:02:42] mail not show 58.8.149.221

Comment : 15

Zoom ++ Click

นางแบบส่วนตัวสักภาพ ^___^

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 13:03:26] mail not show 58.8.149.221

Comment : 16

Zoom ++ Click

พระพุทธลีลา อายุมากกว่า 500 ปี

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 13:16:06] mail not show 58.8.149.221

Comment : 17

Zoom ++ Click

ไปวัดต่อไป ...

วัดพนัญเชิง สักการะ ซำปอฮุดกง

องค์ใหญ่ มหึมา สมพระนาม "หลวงพ่อโต" จริงๆ


พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ และใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา
หน้าตักกว้าง 20 เมตรเศษ สูง 19 เมตร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย
เคยได้รับความเสียหายในสมัยเสียกรุง แต่ก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอด
จนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ. 2497
ได้โปรดเกล้าให้บูรณะใหม่หมดทั้งองค์ และพระราชทานนามใหม่ว่า พระพุทธไตรรัตนนายก
หรือที่รู้จักกันในหมู่พุทธศาสนิกชนชาวไทยเชื้อสายจีนว่า หลวงพ่อซำปอกง[ต้องการอ้างอิง] คำว่า พแนงเชิง
มีความหมายว่า นั่งขัดสมาธิ ฉะนั้น คำว่า วัดพนัญเชิง / วัดพระแนงเชิง หรือ / วัดพระเจ้าพแนงเชิง
จึงหมายถึงวัดแห่งพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัยคือ หลวงพ่อโต หรือ พระพุทธไตรรัตนนายก นั้นเอง
หรืออาจสืบเนื่องมาจากตำนานเรื่องพระนางสร้อยดอกหมาก คือ เมื่อพระนางสร้อยดอกหมากกลั้นใจตายนั้น
พระนางคงนั่งขัดสมาธิ เพราะชาวจีนนิยมนั่งขัดสมาธิมากว่านั่งพับเพียบจึงนำมาใช้เรียกชื่อวัด
บางคนก็เรียกว่า วัดพระนางเอาเชิง ตามสาเหตุที่ทำให้พระนางถึงแก่ชีวิต ฉะนั้น
ถ้าเรียกนามวัดตามความหมายของคำว่า วัดพนัญเชิง ก็ย่อมหมายความถึงวัดที่มีพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิ
คือหลวงพ่อโต ( อ้างอิงจากประวัติวัดพนัญเชิงข้อมูลของทางวัดในปัจจุบัน )

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 13:17:48] mail not show 58.8.149.221

Comment : 18

Zoom ++ Click

วัดต่อไป วัดมเหยงคณ์ ... ไม่ได้ ถ่ายภาพมาอีกสองสามที่ เพราะมุ่งเข้าไปไหว้แล้ว ก็ออกมาเลย ..

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 13:19:13] mail not show 58.8.149.221

Comment : 19

Zoom ++ Click

วัดมเหยงคณ์ เดิมเป็นพระอารามหลวง และกลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๐
วัดนี้ตั้งอยู่ ณ หมู่ที่ ๕ ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
อยู่นอกเขตเมืองมาทางทิศตะวันออก ถ้าเดินมาจากถนนสายเอเชีย แยกเข้าสู่ถนนโรจนะเพื่อมุ่งเข้าเกาะเมือง
พอมาถึงเจดีย์วัดสามปลื้มเลี้ยวขวาอ้อมวงเวียนมาตามถนนระยะทางประมาณ ๑.๕ กิโลเมตร
ก็จะถึงทางเข้าวัดมเหยงคณ์ ท่านจะมองเห็นผนังอุโบสถก่อด้วยอิฐสีแดงตระหง่านแต่ไกล

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 13:20:45] mail not show 58.8.149.221

Comment : 20

Zoom ++ Click

ประวัติ

ประวัติความเป็นมาของวัดมเหยงคณ์น่าสนใจ เพราะเป็นเครื่องชี้ถึงความเจริญด้านจิตใจ
ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อสร้าง ทะนุบำรุงพระอารามแห่งนี้สืบต่อกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี
ปัจจุบันนี้กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนใดมเหยงคณ์เป็นโบราณวัตถุ โบราณสถานของชาติ ตั้งแต่วันที่ ๘ มีนาคม
พ.ศ. ๒๔๘๔ พงศาวดารเหนือได้จดไว้ว่า พระเจ้าธรรมราชา กษัตริย์องค์ที่ ๘ ของอโยธยา มีมเหสี ชื่อ
พระนางกัลยาณี และพระนางเป็นผู้สร้างวัดมเหยงคณ์พระเจ้าธรรมราชา (พ.ศ. ๑๘๔๔ - ๑๘๕๓)
เป็นพระราชบุตรเขยองค์แรกของพระเจ้าสุวรรณราชา พระองค์ทรงสร้างวัดกุฏีดาว ส่วนพระนางกัลยาณี
พระอัครมเหสีทรงสร้างวัดมเหยงคณ์ถ้าเชื่อพงศาวดารเหนือ ก็แสดงว่าวัดมเหยงคณ์สร้างในสมัยอโยธยา
ก่อนตั้งกรุงศรีอยุธยาอย่างน้อย ๔๐ ปี

ถ้าจะดูตามแนวภาษาศาสตร์ความหมายของชื่อ มเหยงคณ์ มาจากศัพท์บาลีว่า มหิยังคณ์ แปลว่า ภูเขา
หรือ เนินดิน พิจารณาภูมิประเทศของวัดมเหยงคณ์ก็เห็นว่าเข้าเค้า เพราะวัดมเหยงตณ์
โดยเฉพาะส่วนพุทธาวาสตั้งอยู่บนเนินสูง นอกจากนั้น ชื่อ มเหยงคณ์
ยังเป็นชื่อสถานที่และพระธาตุสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ ศรีลังกา เรียกว่า มหิยังคณ์เจดีย์ ด้วย
ประเด็นที่สาม เจดีย์ประธานของวัดมเหยงคณ์ ก็สร้างเป็นเจดีย์ทรงระฆังมีช้างล้อมรอบองค์เจดีย์ ๘๐ เชือก
เจดีย์แบบนี้น่าจะได้มาจากเจดีย์ชัยของพระเจ้าทุษฐาคามินีมหาราชในลังกาทวีป ช้างที่ล้อมรอบเจดีย์
คงเนื่องมาจากช้างฤณฑลราชพาหนะของพระเจ้าทุษฐาคามินีมหาราช ผู้ที่ชนะสงคราม
และได้บำรุงศาสนาพุทธให้เจริญรุ่งเรืองในลังกา ปัจจุบัน ในประเทศไทย มีชื่อวัด มเหยงคณ์ รวม ๔ วัด
ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาคือ ตำบลหันตรา ๑ , อำเภอนครหลวง ๑ , ที่จังหวัดสุพรรณบุรีอีก ๑ แห่ง,
และจังหวัดนครศรีธรรมราชอีก ๑ ล้วนแต่เป็นวัดสำคัญทั้ง ๔ แห่ง

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 13:21:21] mail not show 58.8.149.221

Comment : 21

Zoom ++ Click

ที่วัดแห่งนี้เป็นสถานปฏิบัติธรรม และ
เป็นสถานที่ ๆ ตากล้องนิยมไปถ่ายภาพการเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ
ในช่วงวันพระใหญ่ ๆ

http://www.mahaeyong.org/Site/Welcome.html

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 13:24:00] mail not show 58.8.149.221

Comment : 22

Zoom ++ Click

ปิดท้ายวันแรกที่นี่... ไปหาอะไรรับประทานและแวะถ่ายภาพ..

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 13:25:02] mail not show 58.8.149.221

Comment : 23

Zoom ++ Click

เก็บภาพ บรรยากาศยามเย็นมานิดนึง

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 13:25:40] mail not show 58.8.149.221

Comment : 24

Zoom ++ Click

ข้าวเย็น ง่าย ๆ

ข้าวต้ม กับ จับฉ่าย ผัดยอดฟักแม้ว กะพงผัดพริก ยำกุนเชียง


เปรมอุรา...อิอิ มื้อนี้ 300 นิด ๆ อิ่มจัดหนัก

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 13:27:03] mail not show 58.8.149.221

Comment : 25

Zoom ++ Click

จบวันแรก ...

1.ค่ารถจากท่ารถตู้ ST ฝั่งเดียวกับที่จะเดินไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือป๋ายักษ์
(ท่าอยู่ใกล้กับทางที่จะเลี้ยวไปถนนพระราม 9) คนล่ะ 60 บาท

2.ค่าอาหารเที่ยง ก๋วยเตี๋ยวเรือป้าเล็ก และเต้าหู้ทอดอร่อยขั้นเทพ... 105 บาท

3.ค่าเหมารถตุ๊ก ๆ จากหน้าโรงแรม .. 700 บาท

4.ค่าอาหารมื้อเย็น 300 นิดๆ

5.ช็อปปิ้งจิปาุถะ และน้ำดื่ม ต่าง ๆ อีก 140 บาท

ุ6.เงินทำบุญจุดต่าง ๆ

จบวันแรก กลับห้องนอนแช่น้ำอุ่น หลับสบายตั้งแต่ไม่ถึง 4 ทุ่ม
แถมนิดได้ดู หงส์แดงแซงท็อฟฟี่ตอนครึ่งหลังด้วย นิดนึง อิอิ

m_chao-chomthai.jpg chao-chomthai [2012-04-18 14:53:17] mail not show 58.8.149.221

Comment : 26

ภาพงานแท้ วันที่ 15 พี่อยู่อยุธยาเหมือนกันคนเพียบเลย

m_740ef53.jpg ake_chomthai [2012-04-24 08:02:32] mail not show 158.108.66.179

1

Bookmark and Share

Reply

 



Board v.0.12 beta :: Powered by : PacketLove.com | รับทำ SEO | electric cigarette | เว็บไซต์สำเร็จรูป | เว็บสำเร็จรูป | นั่งสมาธิ| สติปัฏฐาน dentist bangkok | implant bangkok | veneer bangkok | implant thailand | dentist sukhumvit | dental sukhumvit | fast braces bangkok | tooth whitening bangkok | Huahin Resort | Pool Villa Huahin |

© 2543-2562-THAILAND, All rights reserved.