ร่วมกันแสดงจุดยืนกับการให้สัมปทานอุทยานแห่งชาติแก่เอกชน!!! Post by : ake

ชมไทยwww.chomthailand.com ติดต่อโฆษณา บทความ แนะนำการท่องเที่ยว IDLINE : akechomthai T. 089-780 1770 e-mail : chomthailand@gmail.com

ร่วมกันแสดงจุดยืนกับการให้สัมปทานอุทยานแห่งชาติแก่เอกชน!!! Post by : ake_chomthai : 2008-09-04 09:27:01

ร่วมกันแสดงจุดยืนกับการให้สัมปทานอุทยานแห่งชาติแก่เอกชน!!!

Detail

ภาพภูกระดึงจากนายเชาๆ

สวัสดีครับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้องๆ ชาวชมไทยครับ

สืบเนื่องจากการได้รับข่าวสารเรื่องการที่ รัฐมีแผนนำเอกชนเข้ามาบริหารพื้นที่อุทยานแห่งชาติ
ซึ่งกำลังเป็นที่กล่าวขานกันในแวดวงนักอนุรักษ์ในขณะนี้ ซึ่งหลังจากที่ผมได้ศึกษารายละเอียด
ได้พูดคุยกับเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เป็นนักวิชาการด้านป่าไม้ ที่กรมอุทยานฯ หรือจะเป็นระดับเจ้าหน้าที่
ที่ดูแลงานด้านป่าไม้มาบ้าง หลายคนไม่เห็นด้วยแน่นอนครับ

(ที่มีโอกาสได้คุยก็เนื่องมาจากประตูรั้วที่ทำงานผมมันติดกันนี่เอง เลยมีโอกาสเข้า ออกบ่อยหน่อย)

ซึ่งต้องทำความเข้าใจด้วยกันว่านโยบายมันมาจากส่วนกลาง
ซึ่งระดับของผู้ปฏิบัติงานส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยเลยกับนโยบายนี้นะครับ

และเพื่อเป็นการแสดงจุดยืนในส่วนตัวของผมเอง นะครับ ผมไม่เห็นด้วยแน่นอนครับ ซึ่งจริงๆ
แล้วผมเป็นคนที่ชอบมองนอกกรอบนะ และก็มองหลายๆ ด้าน
แต่อย่างไรก็แล้วแต่ทรัพยากรธรรมชาติมมันไม่ใช่สิ่งที่จะมาตีค่าเป็นเงิน หรือผลทางธุรกิจได้เลย
ซึ่งคราวนี้ไม่ไหวจริงๆ 10
อุทยานแห่งชาติที่กรมจะให้เอกชนเข้ามาบริหารพื้นที่จัดบริการมันเป็นอุทยานฯ
ยอดนิยมที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปศึกษาธรรมชาติ ท่องเที่ยวมากพอที่จะนำรายได้มาบริหารตนเองอยู่แล้ว

1.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
2.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
3.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
4.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
5.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
6.อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
7.อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
8.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
9.อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
10.อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก

รายละเอียดเพิ่มเติม

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6913736/E6913736.html

ตามไปร่วมลงชื่อคัดค้าน ที่ห้อง blueplanet

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6920969/E6920969.html

ก็อยากให้เพื่อนๆ ชาวชมไทย และเพื่อนๆ ที่สนใจร่วมกันแสดงความคิดเห็นนะครับ คิดได้ 2 ด้านเต็มที่ครับ

ครั้งที่แล้วผมตั้งกระทู้เกี่ยวกับกับการจัดการพื้นที่ อช.เขาพระวิหาร
เพื่อเอาแนวทางไปเสนอกับทีมวิจัยซึ่งจะมาจากคณาจารย์ นักวิชาการ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแขนงต่างๆ
แล้วเพื่อนๆ มาตอบกันน้อยมากเลยครับคราวนี้ยากรับรู้ความคิดเห็นจากเพื่อนๆ อีกสักครั้งนะครับ

เหตุผล และความคิดเห็นของทุกท่านจะเป็นประโยชน์มากๆ เลยครับ มันจะเป็นมุมที่สะท้อนถึงปัญหา
และแนวความคิดจากนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยตรงครับ

ด้วยความนับถือ
เอก ชมไทย

ake_chomthai [2008-09-04 09:27:01] mail not show

Comment : 1

เอื้อประโยชน์ให้เอกชน

ต้องมีผลประโยชน์ซึ่งกันและกันแน่นอน

อุทยานฯ ก็คงจะกลายเป็นรีสอร์ท ในพริบตา

คนคิดโครงการนี้ เอาสมองส่วนไหนคิดไม่ทราบ

Super Cherry [2008-09-04 09:42:23] mail not show

Comment : 2

เอกชนเข้าก็มีแต่เรื่องธุรกิจ ไม่มีเพื่อประโยชน์ส่วนรวมหรอก ต่อไปเที่ยวเมืองไทยคงแพงก่าไปเมืองนอก
ซึ่งตอนนี้บางที่ในเมืองไทยก็เป็นอยู่เช่นทะเลอันดามัน ไปฮ่องกงยังถูกก่าเล้ย

Melody [2008-09-04 09:53:45]

Comment : 3

อย่ามาทำลายธรรมชาติเลย ธรรมชาติก้อมีชีวิต กลับไปคิดเสียใหม่จะดีฝ่านะ

Post by : นุ่น [2008-09-04 10:50:12]

Comment : 4

คิดได้งัยฟระ??..เอา อช. ให้เอกชนจัดการ บร้าไปแล้วหรอ??
จะเอาอะไรกันอีก...สัตว์มันจะไม่มีที่อยู่กันอยู่แล้ววววว

^new^ [2008-09-04 11:06:04]

Comment : 5

เฮ้ย ได้ไงอ่ะ ขายกันเห็น ๆ คิดได้ไงฟะเนี่ย

mimi [2008-09-04 12:03:51]

Comment : 6

ไม่เห็นด้วยค่ะที่ อช.เหล่านี้ต้องตกอยู่ภายใต้การบริหารของเอกชน
เพราะธรรมชาติคือสมบัติของทุกคน ที่ต้องช่วยรักษาไว้
และจะต้องไม่ตกอยู่ในมือของคนเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ที่เข้ามาเพียงหวังจะฉกฉวยผลประโยชน์จากธรรมชาติเหล่านี้
คำว่าธุรกิจต้องไม่มีคำว่าขาดทุน เพราะฉะนั้นพวกเค้าจะทำทุกอย่าง
เพื่อให้เกิดผลกำไรสูงสุด ผลเสียที่ตามมาก็คือธรรมชาติถูกทำลาย
และไร้คนเหลียวแล

Post by : รัตน์ [2008-09-04 13:04:28]

Comment : 7

อ่า.... พี่น้องครับ

ขึ้นต้นแบบนี้ไม่ได้หมายความไม่เห็นด้วยนะครับ...(อย่าเพิ่งรุม)

ต้องดูที่เจตนาครับ จริงอยู่เปอร์เซ็นต์ที่ว่าเอกชนมักจะคำนึงในแง่ธุรกิจสูง...

แต่หลายท่านคงเคยขึ้นเขาใหญ่นะครับ....
ลองย้อนนึกดูครับ ว่าท่านเคยผ่านประสบการณ์เหล่านี้มั้ย....

ห้ามให้อาหารลิง......... คนไปเที่ยวก็ให้ แถมเป็นขนมที่อุดมไปด้วยโมโนโซเดียมกรูตาเมต หรือชูรสนี่แหละ
ทีน่าสังเวชคือบรรดาลิง ติดใจในสิ่งที่เสพย์ แล้วมันก็ไม่ยอมไปหากิน มัวแต่ดักรออยู่ข้างถนน บนถนน
รถเหยียบตาย-พิการปีละไม่น้อย

ยามวิกาล ห้ามเสียงดัง.... พ่อเจ้าประคุณก็แหกปากประสานเสียงกันเข้าไป ไม่สนใจว่าใครจะมาพักผ่อน
สัมผัสธรรมชาติ....

ขวดเหล้า ขวดเบียร์ ขวดโซดา เศษถุงพลาสติก เศษอาหาร....
อีกนานาสิ่งแปลกปลอมที่มันไม่ควรไปอยู่บนนั้น....
ตอนเอาขึ้นไปเชื่อมั้ยน้ำหนักดั้งเดิมมันมากกว่านั้นหลายเท่า แต่ตอนขาลงทำไม๊ไม่มีปัญญาหิ้วกลับ
ส่งผลกระทบมากมาย น่าสงสารแต่เจ้าหน้าที่ ต้องคอยมาตามล้างตามเช็ด
(มีไม่น้อยคนรักธรรมชาติ
ที่เห็นเค้าเก็บทุกอย่างกลับแม้เศษขยะเศษอาหาร...เห็นแล้วแทบอยากเข้าไปขอลายเซ็น
แต่เทียบกันเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วมันน้อนแสนน้อย)

และอีก.... นึกได้จะมาลงเพิ่ม...

ลองนึกอีกมุม... ถ้าเป็นเอกชน การเข้มงวดเค้าทำได้เต็มที่ ค่าบริการที่เพิ่มขึ้นมาก็อาจเป็นอีกด่านหนึ่ง
ที่กรองบุคคลประเภทไม่หวงแหนธรรมชาติ ให้อยู่ห่างพื้นที่

อย่างปัจจุบัน น่าเห็นใจเจ้าหน้าที่มากๆ บางครั้งเจอสมัครพรรคพวกผู้บังคับบัญชา ฝากมา
พูดได้ก็ไม่เต็มที่ บางครั้งข้าราชการ ครู ทหาร ตำรวจ... พวกที่สมควรจะมีสำนึกกว่าใครๆ
มันมักจะอยู่ในมุมที่กลับกันครับ อันนี้เคยพูดคุยกับเจ้าหน้าที่
ว่าอันดับของคนที่มาก่อความวุ่นวายมากที่สุด ได้ฟังแล้วเหลือเชื่อครับ เรียงเลยนะครับ ครู ทหารเรือ
ข้าราชการ-รัฐวิสาหกิจ จากมากหาน้อยครับ (กราบขอโทษถ้าพาดพิง ฟังมายังไงว่าไปยังงั้น
หลายท่านที่ดีอยู่แล้วก็จงดีต่อๆไปครับ)

......

แค่ความเห็นหนึ่งครับ ถ้ามีการนำเสนอมา พิจารณาแล้วโดยรวมดีกว่าเก่า สามารถตรวจสอบได้
มันก็น่าจะเป็นหนทางเลือกหนึ่งเหมือนกันนะ

Khondee [2008-09-04 13:58:01]

Comment : 8

บางครั้งเราก็มองที่ตัวปัญหามากเกินไป

วิธีการแก้ปัญหามีร้อยแปด ต้องร่วมกันคิดแล้วเสนอขึ้นไปครับ

คัดค้านอย่างเดียว คงไม่เป็นผล ถ้าไม่มีทางเลือกเสนอขึ้นไปด้วย

KARN [2008-09-04 14:03:41]

Comment : 9

ดีใจจัง กระทู้นี้เริ่มมีประโยชน์จริงๆ

ผมได้รับรู้ถึงหลายๆ มุมเลยครับ ช่วยกันคิด วิเคราะห์กันครับ

คันมือขอพิมพ์ต่ออีกนิดหนึ่ง

......เหตุปัจจัยที่กรมอุทยาน เสนอให้เอกชนเข้ามาบริหารส่วนที่เป็นศูนย์บริการ
ก็ด้วยเหตุเรื่องการจัดการ

- อุทยานฯ เจ้าหน้าที่ไม่พอ ที่จะดูแลในส่วนต่างๆ
- งบประมาณในการก่อสร้าง หรือจัดการด้านต่างๆ ของอุทยานไม่เพียงพอ

ซึ่งจริงๆ แล้ว

\\\"แผนการนี้
เป็นการคิดภายใต้ระเบียบเก่า
ที่เปิดให้เอกชนเข้ามาบริหารจัดการท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ และต้องการขยายเขตพื้นที่บริการในอุทยานฯ
ต่างๆ ที่มีความพร้อม
เพื่อกระจายการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยว\\\"

แต่ประเด็นเบื้องต้นที่ต้องออกมาคัดค้านกันก่อน

ตอนนี้คือ - เรื่องค่าสัมปาทานในพื้นที่ ซึ่งดูแล้วไม่ค่อยโปร่งใส

****กรมอุทยานแห่งชาติกำหนดราคาค่าเช่าพื้นที่เพื่อบริการไว้ตารางเมตรละ 30 บาท หรือไร่ละ 4.8
หมื่นบาทต่อเดือน แต่เอกชนมองว่าเป็นราคาที่สูงเกินไป และต่อรองให้ลดราคาลงเหลือแค่ตารางเมตรละ 3
บาทเท่านั้น ซึ่งการต่อรองราคาดังกล่าวเกิดขึ้นแล้ว ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการเปิดประมูลอย่างเป็นทางการ

- การแบ่งเกรดนักท่องเที่ยว ซึ่งผมมองในแง่ของสิทธิ์ความเท่าเทียมกันในสังคม ในการเคารพกฏเกณฑ์
และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน

- และการเข้ามาบริหารในพื้นที่อุทยานฯ 10 แห่งข้างต้น ซึ่งจริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องให้เอกชนเข้ามา
เพราะอุทยานฯ เป็นที่รู้จัก และมีนักท่องเที่ยวมากันเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว

ถ้าเป็นอุทยานฯ เล็กที่ไม่มีชื่อเสียง ไม่รู้ว่าจะมีใครสนใจบ้างหรือป่าว

และสิ่งที่กลัวคือในที่สุด การจัดการพื้นที่ของอุทยานฯ เอกชนจะรักษาเงื่อนไขต่างๆ
ตามที่ตกลงได้หรือไม่ กระบวนการตรวจสอบจะมีช่องโหว่ขนาดไหน และในที่สุดแล้ว
การจัดการทั้งหมดจะอยู่ในมือของกลุ่มนายทุนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นเอง

แนวความคิดและทางออก เป็นความคิดส่วนตัวของผมนะครับ

กรมต้องให้โอกาสกับชุมชนในพื้นที่ได้ดำเนินการ

แทนที่เราจะให้กลุ่มนายทุน หรือนักธุรกิจเข้ามาจัดการ…………….
ในเมื่อเรามีนโยบายเก่าที่ดีอยู่แล้ว เรื่องการให้ชุมชน ประชาชนในพื้นที่ เยาวชน
ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ มูลนิธิ ชมรม หรือกลุ่มอนุรักษ์ต่างๆ รอบข้าง
ซึ่งเขาอยู่กับอุทยานมาตั้งแต่เกิด อยู่ก่อนที่พื้นที่บางส่วนจะประกาศเป็นอุทยาน ซะอีก
ซึ่งเขามีความรัก และหวงแหนอุทยานฯ ซึ่งเป็นเหมือนบ้านที่เข้าอยู่ ได้มีส่วนร่วมกันระดมทุน
จัดเป็นระบบสหกรณ์ โดยการดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ เข้ามาจัดการ ศูนย์บริการต่างๆ ทั้งห้องพัก
หรือร้านค้า ก็ดี ให้กลมกลืนกับสภาพความเป็นท้องถิ่น ผมว่าเพื่อนๆ
คงไม่ยากเห็นร้านค้าตามซำต่างๆ
ของภูกระดึง ซึ่งเป็นเพิงง่ายๆ เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่
ต้องเปลี่ยนรูปโฉมไปเป็นแบบทันสมัยขัดหูขัดตา ลองคิดดูว่าคุณจะเลือกอันไหน

การปลูกฝั่งจิตสำนึกในการรักษ์ธรรมชาติ มันเป็นอะไรที่เป็นนามธรรม
มองไม่ค่อยเห็นทางด้านวัตถุเหมือนสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่เห็นเลย
ซึ่งผมเข้าใจว่ามันต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่เราก็เริ่มทำกันมาแล้วไม่ใช่หรอครับ เด็กๆ
ที่เราปลูกฝั่งเขาในวันนั้น วันนี้ก็โตขึ้นมาพร้อมกับการรักและห้วงแหนธรรมชาติใช่ไหมครับ
เพราะผมเองก็เคยได้รับการปลูกฝั่งมาเช่นกัน

ฉะนั้นการอ้างว่าต้องการมืออาชีพเข้ามาจัดการบริหาร ซึ่งมาจากภาคเอกชนธุรกิจ

กับมืออาชีพที่เป็นคนในพื้นที่จริง ๆ เป็นคนที่รักและห้วงแหนธรรมชาติตรงนั้นจริงๆ เข้ามาดูแล
คุณจะเลือกอันไหน

บางครั้ง การจัดการทางด้านวัตถุ และการบริหารที่คิดกันว่าดี ซึ่งถ้ามันไปทางด้านธุรกิจจนเกินไป
มันก็ไม่ใช่ปรัชญาจริงๆ ของแนวคิดในการอนุรักษ์ครับ

คงฝากไว้เท่านี้ก่อนครับ

ด้วยความนับถือ

เอก ชมไทย

ake_chomthai [2008-09-04 15:00:11] mail not show

Comment : 10

เริ่มแจ่มชัดขึ้นมาแล้วครับ พอได้อ่านที่มาที่ไปเพิ่มขึ้น...
บ้านเมืองเราเป็นแบบเนี้ยแหละครับ... คาดว่าชั่วชีวิตในรุ่นพวกเราคงยังแก้ไม่ได้... เรื่องมีนอกมีใน
เวลาทำงานกับต่างชาติเจอเค้าถาม เราก็รู้สึกอายนะ... ที่พูดอยู่ปาวๆว่าไม่มี๊ ไม่มี ไม่ยักมีคนเชื่อแฮะ
ก็มันกลิ่นไม่ดีตั้งแต่เริ่มคิดโครงการแล้วอ่ะ...

.....

เริ่มที่ตัวเราก่อนครับ เป็นที่เดียวที่ควบคุมได้ สั่งได้อย่างเต็มที่
คิดให้ได้ว่าถึงแม้ด้านอนุรักษ์ไม่ได้มีส่วนเสริม ก็อย่าไปเติมในส่วนทำลาย
อยากได้อะไรก็ถ่ายเก็บมาเอาไว้ดูก็พอ

ถ้าคุณช่วยเอกหรือใครทราบรายละเอียด ใจความเนื้อหา ก็ลองขยายดูครับ

ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่งที่เกิดมาท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ ชั่วไม่กี่ปีที่ต้องมาทำงานในเมือง
เวลากลับบ้าน สภาพแวดล้อมวัยเด็กที่เราเคยสัมผัสมันหายไปหมดเลย เร็วมากแบบก้าวกระโดดเลย...

เด็กสมัยนี้แม้กระทั่งปลาซิวตัวเล็กๆ ก็แทบไม่รู้จักแล้ว เพราะมันไม่เหลือให้เห็น

เพราะงั้น เวลามีมาตรการอะไรก็ตามที่พอจะรักษาสภาพอันอุดมไว้ให้คงอยู่นานๆ แม้มันจะลดความสะดวกสบาย
เพิ่มความลำบากบ้าง ก็ยินดีสนับสนุน....

Khondee [2008-09-04 16:14:42]

Comment : 11

ผมเชื่อว่า สมาชิกที่ชมไทยแห่งนี้ แค่อ่านจบก็คงปวดใจกนบ้างแหระครับ

ผมเองถึงแม้จะไม่ได้ไปร่วมมิตติ้ง ไปร่วมเที่ยวกับสมาชิกที่นี่มากนัก แต่ก็เข้ามาดูไม่เคยห่างหาย

วันนี้ ผมเองนิ่งไม่ได้จริงๆครับ ผมจะไม่อธิบายอะไรมากมาย

แค่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการคัดค้านรัฐบาล...ที่จะให้สัมปทานอุทยานแห่งชาติแก่เอกชน

ผมได้ร่วมลงชื่อที่blueplanet ในpantipไปเรียบร้อยแล้ว และถ้าจะต้องปกป้องสิ่งเหล่านี้ ผมพร้อมลุยครับ
จะติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว

YoYo [2008-09-04 18:10:20] mail not show

Comment : 12

แย่จัง ความเป็นธรรมชาติจะกลายเป็นเหมือนที่เกาะช้างแล้ว
ความเจริญเข้ามาความสวยอย่างธรรมชาติก้อจะจางไป

loke [2008-09-04 20:14:39] mail not show

Comment : 13

ไม่เห็นด้วยค่ะ ที่จะให้เอกชนมาบริหารอุทยานแห่งชาติ เพราะ อยากให้ธรรมชาติยังเป็นเช่นเดิม
ปราศจากนายทุนที่เข้ามากอบโกยแต่ผลประโยชน์ จนสุดท้าย สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติแท้ๆ
จะหายไปจากประเทศไทย

moonoi [2008-09-05 10:33:38] mail not show

Comment : 14

ไม่อยากให้เอกชนได้สัมปทานไปเลย
เพราะมันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
กลายเป็นธุรกิจไปหมดเลย ...

nuchtato [2008-09-05 12:09:20] mail not show

Comment : 15

เวลาเกิดภัยธรรมชาติ ก็อย่ามาเสียใจทีหลังล่ะกัน

...เพราะมันเป็นการลงโทษจากธรรมชาติ ฐานที่เราล่วงล้ำ ละเมิดธรรมชาติมากเกินไป

...มีนักปีนเขาระดับโลกท่านหนึ่งกล่าวว่า "อย่าเรียกว่า
เราปีนเพื่อพิชิตยอดเขาเพราะไม่มีใครชนะธรรมชาติได้ เราปีนเขาเพื่อขอซึมซับและแฝงตัว
เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ.. เพียงชั่วครู่เท่านั้น..."

Post by : พิชญ์ [2008-09-05 19:17:02]

Comment : 16

ขออนุญาต เอากระทู้นี้ไปเผยแพร่ที่http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6931312/E6931312.htmlนะครับ

ขอบคุณครับ...

YoYo [2008-09-05 19:45:36] mail not show

Comment : 17

แค่นี้ก้อวุ่นอยู่แล้วยังจะหาเรื่อง โกงกินกันเข้าไป

Itsara [2008-09-06 12:43:52]

Comment : 18

เอกชนมาบริหารต้องมีเรื่องธุรกิจแน่นอน และธรรมชาติจะถูกทำลายจากการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
ถูกจัดฉาก ปรุงแต่งธรรมชาติ คงได้อารมณ์และความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิม

wongngam [2008-09-06 22:41:05] mail not show

Comment : 19

คิดถึงลูกหลานของคุณเถอะนะครับว่าในอนาคตภัยพิบัติมันไม่ได้เกิดแค่ในประเทศไทยที่เดียวนะครับ
มันเกิดทั้งโลก ถ้าต้นไม้ หรือวงจรธรรมชาติค่อย ๆ สูญเสียไปมัน
ก็คือส่วนหนึ่งที่ทำร้ายโลกนะครับ

แล้วลูกลานคุณในอนาคตที่ต้องอยู่ต่อไป จะเป็นยังไง ไม่ใช่ว่า ทำวันนี้ประเทศจะเป็นยังไงก็ชัง
ขอให้ได้เงินก่อน รวยก่อน แล้วค่อยย้ายไปอยู่ ตปท ภัยพิบัติ การเอาคืนจากธรรมชาติมันไม่สนใจหรอกครับ ว่า
ต้องเกิดที่ประเทศ
ไทย มันเกิดทั่วโลกครับ แต่ค่อย ๆ เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ลองอ่าน ข่าวรอบโลกซิครับ ว่าเกิดภัยพิบัติ
ได้ทุกวัน ทุกเวลา

ถ้ายังขืนใจ ทำร้ายโลก ธรรมชาติ ที่ยังมีอยู่น้อยนิด อีกหน่อย ลูกหลานคุณ นั่นแหละครับ
ที่จะต้องเผชิญผลกรรมที่คุณได้ทำในวันนี้ครับ คุณเชื่อหรือไม่ ว่าผลกรรมมันตามทันแน่นอนครับ
เร็วติดจรวจเลยหล่ะครับ

คิดให้ดี ๆ คิดให้เยอะ ๆ ในคุ้มค่า สมราคา กับที่ไปรำเรียนมา ให้สมกับที่ ผู้มีบุญคุณของคุณได้
ทำงานหาเงินส่งคุณเรียนนะครับ เอาความรู้ ความคิด ความสามารถ ปัญญา ที่มี ได้ได้สืบทอดกันมาแต่รุ่นโบราณ
นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับโลกใบนี้ ประเทศนี้ นะครับ

ขอร้องอย่าคิดอะไรสั้น ๆหรือมั่วแต่สร้างผลงาน หรือเอาใจนาย จนลืมคิดเรื่องสำคัญ อนาคต นะครับ

Post by : ฑูตสวรรค์ [2008-09-08 15:24:51]

Comment : 20

ผมยังคงอยากเที่ยวธรรมชาติ ในที่พักแบบที่เป็นธรรมชาติ
ไม่อยากเที่ยวธรรมชาติ ในที่พักที่เป็นแบบเมือง

วิธีพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวน่าจะมีหลายทางเลือกนะครับ
ทางเลือกนี้มันพัฒนาได้เช่นกัน แต่มองแล้ว "ไม่ยั่งยืน"
น่าจะมีทางเลือกอื่นๆ ที่ดีกว่านี้นะครับ

Post by : buffet.. [2008-09-08 18:06:14]

Comment : 21

ไม่เห็นด้วยอย่างแรง ด้วยเหตุและผลของเพื่อนๆ ข้างบน ก็เพียงพอแล้ว

jenkjenk [2008-09-08 23:23:24] mail not show

Comment : 22

ไม่อยากนอนโรงแรมหรูกลางป่านะ

SnoOkiE_UglY [2008-09-16 00:45:22] mail not show