Detail

วางแผนตั้งแต่ต้นปี อยากไปนอนแพที่นี่มานานแล้ว ไปมาหลายรอบ เอาแต่นอนอยู่ริมฝั่ง อยากนอนแพกลางน้ำ
ลากไปชิวๆหน้าเจดีย์พุทธคยาเลยยิ่งดี
จัดแจงจองแพลุงบุญเอาล่วงหน้าหลายเดือน ก่อนไป 2-3 สัปดาห์ ฝนตกให้ดีใจว่าจะพบกับน้ำใสๆ หญ้าเขียวๆ
เขาเขียวๆ หมอกนิดๆ...........อืมมมมมมมมม
เขาซ่อมเขื่อนครับ ซ่อมมาจะสี่เดือนละ น้ำลดจนน่าใจหาย แพไหลไปกองรวมกันกลางแม่น้ำ
ที่ตอนนี้แปรสภาพเป็นลำห้วย!! แต่สิ่งที่พิเศษก็ได้เกิดขึ้น
นั้นคือเจดีย์3องค์ ซึ่งเป็นของแท้ดั่งเดิม ที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำบีคลี่ ไได้โผล่พ้นน้ำ
และมีพื้นที่ให้เราลงไปเดินรอบๆได้ ซึ่งก็ถือว่าโผล่ขึ้นมาให้เห็นในรอบหลายสิบปี
คุณลุงคนขับเรือบอกว่าอดนึกถึงตอนสมัยเด็กๆ ที่มาวิ่งเล่นแถวนี้ไม่ได้
แห่มมมมมม ไปกี่ทีสังขละเมืองเล็กๆแห่งนี้ ก็มีอะไรๆ พิเศษคอยต้อนรับเราอยู่เสมอ

Comment : 51

สีเข้ากันกับองค์เจดีย์ พระพักรอิ่มเอิบ

Comment : 52

หลบมุมใน

Comment : 53

อันนี้แปลกเลย

Comment : 54

ปางนี้ไม่เคยเห็น

Comment : 55

Comment : 56

องค์นี้ไม่ใช่สัมฤทธิ์

Comment : 57

หลังจากไหว้พระให้เย็นใจแล้ว กิจกรรมต่อไปก็ล่องเรือกัน เอาแบบเต็มคอร์สเลย ไปดูวัดใต้น้ำยันทางรถไฟ
ไปกับแพลุงบุญเรือถูกดี 600บาท ถ้าไปชั่วโมงเดียวคิด 300บาท ไปเหมาข้างบนหรือจากรีสอร์ทอื่น ชาร์จอีก
200บาท ถือว่าประหยัดไป

Comment : 58

น้ำลด ไม้ผุดเพียบ

Comment : 59

ก่อนถึงวัดไม่มาก ที่ปากแม่น้ำบีคลี่ เราพบเจดีย์ 3องค์ตั้งอยู่ ลงุคนเรือบอกว่านี่คือด่านเจดีย์
3องค์ของแท้และดั่งเดิม เป็นเส้นทางเดินทัพของพม่าเดิมเลย ว่าแล้วเราก็ตื่นเต้น ขอลงไปสำรวจหน่อย

Comment : 60

เรือจอดใกล้มากไม่ได้ ต้องลงเดินขึ้นไปเอง

Comment : 61

น้ำหนักตัวร้อยกว่าโลนิดๆของผม ทำเรื่องแล้ว ลงไปก้าวแรกก็หายไปเลย ยิ่งเดินยิ่งจม
กว่าจะขึ้นมาได้ก็สภาพนี้ละครับ ได้ถุงเท้าดึงสูงถึงเข่ามาหนึ่งคู่ เล่นเอาชาวมอญแถวนั้นฮาาาาากันไป
"หมีลุยโคลน"

Comment : 62

ให้ดูภาพเต็มๆของทั้ง 3องค์ก่อนครับ สององค์น้อยๆนั่น ท่าทางจะหายไปเยอะแล้ว
เหลือองค์ใหญ่ด้านในที่ยังพอมีสภาพเป็นกองหินให้เห็น เสียดายมาก กรมศิลป์ น่าจะมาอนุรักษ์ไว้

Comment : 63

สองอค์น้อยแทบไม่เหลือแล้ว

Comment : 64

จากองค์ใหญ่ด้านในยังมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังท้ายวัดวังก์วิเวการามได้

Comment : 65

เทียบขนาดกับคน

Comment : 66

ไม้ท่อนนี้คงไหลมาและอยู่ที่นี่มานาน ตอนน้ำเต็มคงนอนนิ่งอยู่ลึกกว่าสิบเมตร

Comment : 67

Comment : 68

ชักภาพเก็บไว้ก่อน

Comment : 69

สภาพตัวองค์เจดีย์รายละเอียดหลงเหลือเพียงเท่านี้ละครับ ดูเป็นกองอิฐซะส่วนใหญ่แล้ว อยากให้บูรณะจัง
จะได้เป็นอีกหนึ่ง Unseen ให้คนได้มาดูกัน มาเป็นประวัติศาสตร์จริงๆกัน

Comment : 70

ตัดมาที่วัดวังก์วิเวการามหรือวัดใต้น้ำเลย ตอนน้ำขึ้นนี่ ไม่มีทางเห็นบันไดหินอันนี้แน่นอน
คราวนี้ได้มาขึ้นท่าที่นี่เลย คงเหมือนอดีตที่บันไดนี้เคยใช้งานมาก่อน

Comment : 71

น้ำลงจนทางเดินเชื่อมต่อถึงกัน หญ้าเขียวขึ้นเต็มพื้นดิน

Comment : 72

Comment : 73

อันนี้ก็ไม่รู้อะไร แต่ตอนจมน้ำด้านบนโผล่ขึ้นมานิดเดียวเอง

Comment : 74

Comment : 75

เดินไปตัวโบสถ์ต่อ

Comment : 76

Comment : 77

Comment : 78

Comment : 79

มุมนี้เคยมาเดินถ่าย แต่ภาพข้างนอกมีแต่น้ำ

Comment : 80

ประตูทางเข้าจากที่หน้าร้อนน้ำลง มีพื้นดินให้เดินแล้ว คราวนี้มีหญ้าเขียวๆขึ้นมาเลย

Comment : 81

หน้าโบสถ์น้ำยังลงจนมีพื้นดินอีกไกล

Comment : 82

เขียวไปหมด

Comment : 83

นั่งเรือไปจุดต่อไป ระหว่างทาเราก็พบสิ่งก่อสร้างมากมายที่โผล่ขึ้นมาให้เห็น

Comment : 84

Comment : 85

จะไปดูทางรถไฟ แต่น้ำลงซะมาก ต้องเดินเท้าเอาอีก จอดได้แค่ที่ผา ตัดสินใจกลับดีก่า
ก่อนกลับแหดันมาพันใบพัดเรือซะ

Comment : 86

ระหว่างนั่งรอถ่ายแมลงปอต่อไป

Comment : 87

กลับมาช่วงเย็นนั่งถ่ายเงาน้ำสะท้อนไป เย็นนั้นทำอะไรนิดหน่อยกินกัน นอนหลับสบายไปอีกคืน

Comment : 88

เช้านี้ตื่นมาอากาศชื้นๆ แดดนิดหน่อย แปรงฟันเสร็จ แบกกล้องกันเดินเล่นยามเช้าดีก่า

Comment : 89

ทางลงเฉพาะกิจที่ทำไว้ลงแพ ปกติน้ำท่วมหมด

Comment : 90

อากาศเย็นๆ ชื้นๆ น้ำค้างเพียบ จัดไปมาโคร

Comment : 91

เลนส์มาโ๕รไม่มี เอา 70-300 1:2 ไปก่อนละกัน

Comment : 92

Comment : 93

Comment : 94

Comment : 95

Comment : 96

Comment : 97

Comment : 98

Comment : 99

Comment : 100